TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Libera Università di Bolzano学士毕业证[办证网:bzw985.com]-哪里买Libera Università di Bolzano学士毕业证(证件网:bzw985.com)-禹州Libera Università di Bolzano学士毕业证哪里做-哪里办Libera Università di Bolzano学士毕业证FP” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
อินโฟเฟด ระเบิดศึก “University E-sports Championship” ชิงทุนการศึกษารวม 1 ล้านบาท
บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ผู้ก่อตั้งสนามกีฬา “Thailand E-Sports Arena” เพื่อการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตแห่งแรกในประเทศไทย เดินหน้าจัดการแข่งขัน University E-sports Championship (UEC) ลีกอีสปอร์ตระดับมหาวิทยาลัยเต็มรูปแบบ ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเปิดให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสมัคร พร้อมดวลฝีมือแข่งขัน ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 1,000,000 บาท พร้อมโอกาสในการพัฒนาฝีมือและการทำงานในวงการอีสปอร์ต นายจิรยศ เทพพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพด้านอีสปอร์ต เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวสนามกีฬา “Thailand E-Sports Arena” ซึ่งเป็นสนามการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตที่ครบวงจรที่สุดของประเทศ สามารถจัดการแข่งขันเกมทั้งในรูปแบบ ออนไลน์ ออฟไลน์ บนแพลตฟอร์มโมบายและพีซี ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายจัดลีกการแข่งขันให้กับนักกีฬาอีสปอร์ตไทยได้โชว์ศักยภาพ และพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดสู่อาชีพต่าง ๆ จึงได้ผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยในประเทศ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (depa) และบริษัทเอกชนชั้นนำที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนในการจัดการแข่งขัน University E-sports Championship หรือ UEC ซึ่งเป็นลีกการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการเปิดกว้างให้ผู้เข้าแข่งขันระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันบนเว็บไซต์ www.UEC.live พร้อมมีเกมการแข่งขันที่นิยมหลายเกมและรางวัลมีมูลค่าสูงกว่าการแข่งขันที่ผ่านมา ในด้านการสนับสนุนนั้น ทางบริษัทยังเปิดรับผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน UEC เพื่อขยายช่องทางการสื่อสารสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านลีกการแข่งขัน UEC “การจัดลีก UEC นับเป็นมิติใหม่ของการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตระดับอุดมศึกษาในประเทศ เนื่องจากเป็นการจัดแข่งขันที่เปิดกว้างให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสมัครเข้ามาร่วมการแข่งขันผ่านเว็บไซต์ โดยแข่งขันด้วยเกมยอดนิยม 3 เกม คือ Arena of Valor หรือ ROV, Player Unknown Battleground Mobile หรือ PUBG Mobile และ Overwatch ซึ่งครอบคลุมทั้งบนแพลตฟอร์มโมบายและพีซี เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เปิดกว้างเข้มข้นท้าทายศักยภาพนักกีฬาอีสปอร์ตไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นบันไดสู่การ ต่อยอดอาชีพต่าง ๆ ในอนาคตอีกด้วย” นายจิรยศ กล่าวเสริม อย่างไรก็ตาม การแข่งขัน UEC จะแบ่งภูมิภาคการแข่งขันออกเป็น 5 ภูมิภาคหลัก คือ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ สุดท้ายคือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการแข่งขันในแต่ละเกมนั้นจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 รอบ คือ รอบ Online เพื่อเฟ้นหาตัวแทนมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาค และรอบ Offline เพื่อชิงชนะระดับประเทศ ณ Thailand E-Sports Arena โดยการแข่งขัน UEC ในครั้งนี้ มีรางวัลเป็นทุนการศึกษาและทริปการศึกษาดูงานเกม G-Star ที่ประเทศเกาหลีใต้ มูลค่ารวมกว่า 1,000,000 ล้านบาท นายจิรยศกล่าวต่อว่า ล่าสุด KK Fund จากประเทศสิงคโปร์ ได้เข้ามาลงทุนในบริษัทแล้ว ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพและแผนธุรกิจของบริษัทสตาร์ทอัพด้านอีสปอร์ตที่น่าจับตา ซึ่งเงินทุนที่ได้จะนำไปใช้ในการจัดการแข่งขัน UEC, พัฒนา Studio, Production และแพลตฟอร์มการแข่งขัน โดยทางบริษัทมีแผนขยายการจัดลีกการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยปีละ 7-8 % ประกอบกับตลาด อีสปอร์ตในประเทศกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโตเป็นไปในทิศทางของเศรษฐกิจ ทั้งยังมีการสนับสนุนจากทางภาครัฐในการเดินหน้าอุตสาหกรรมอีสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง และการจัดลีกการแข่งขันจะช่วยสร้างความคึกคัก และสร้างกระแสความนิยมของกีฬาอีสปอร์ตในภูมิภาคมากขึ้น โดยโรดแมปแผนการจัดลีกการแข่งขันซีซันแรกนั้นจะเป็นการจัดแข่งขันภายในประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะขยายการแข่งขันไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และ SEA ต่อไปตามลำดับ อีกทั้งบริษัทยังเปิดกว้างรับการลงทุนจากนักลงทุนที่สนใจและมองเห็นศักยภาพของบริษัท ซึ่งในปีนี้ปริษัทตั้งเป้าเติบโตกว่า 200% ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า อีสปอร์ตได้รับการบรรจุเข้าสู่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ครั้งแรกในฐานะกีฬาสาธิตพิสูจน์ความสามารถของนักกีฬาไทยในเวทีมหกรรมกีฬาเป็นครั้งแรก และเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ความสำเร็จในเวทีการแข่งขันระดับประเทศ และการพัฒนานักกีฬาอีสปอร์ตไทยให้มีศักยภาพในเวทีการแข่งขันระดับโลก ซึ่งการจัดลีกการแข่งขัน UEC ระดับอุดมศึกษาเต็มรูปแบบในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของการเปิดเวทีการแข่งขันให้กับเหล่านักกีฬาอีสปอร์ตที่มีความสามารถได้แสดงความสามารถและฝึกฝีมือ ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหา “เด็กติดเกม” ให้กลายเป็น “โอกาสของประเทศ” ได้ตรงจุด ด้วยการจูงใจให้เยาวชนที่ชื่นชอบการเล่นเกมเข้าสู่การแข่งขันและพัฒนาตัวเองเข้าสู่วงการอีสปอร์ตต่อไป อนึ่ง การจัดลีกการแข่งขันมีส่วนช่วยให้ตลาดอีสปอร์ตในประเทศไทยและภูมิภาคคึกคัก โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอีสปอร์ตในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สูงขึ้นปีละกว่า 30% โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 50% และยังพบว่าประเทศในกลุ่ม CLMV มีมูลค่าการเติบโตที่น่าจับตาเช่นกัน อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019 อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19 ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย ดูบอลสด ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่ ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก! ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก! ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports
LINETODAY • 16 ม.ค. 62
อ่าน
how to survive in university!?
หากจะกล่าวเปรียบชีวิตมหาลัยกำลังสถานที่ๆหนึ่งแล้ว สำหรับผู้เขียนนั้น สถานที่นั้นคงไม่พ้น "ทะเล" มีเพลงมากมายร้องเกี่ยวกับทะเล ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสีดำ-ลุลา ,ทะเลใจ-คาราบาว เป็นต้นจากเพลงทะเลใจ มีท่อนหนึ่งที่คาราบาวร้องว่า "ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ" เนื้อเพลงท่อนนี้เปรียบเทียบได้กับชีวิตผู้เขียนตอนนี้ ซึ่งกำลังศึกษาในคณะๆหนึ่งใจกลางสยาม พึ่งผ่านและกำลังเรียนอย่างหนักในคณะหฤหรรษ์แห่งนี้ บางครั้งผู้เขียนก็มักจะถามตัวเองบ่อยๆว่า "จะรอดมั้ย" "จะตายป่ะวะ" "เวียร์มากไม่ไหวแล้ว ทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร" [*เวียร์มาจากคำว่า severe] ในทุกๆการสอบ การเรียนในคณะที่ suffer เกินคนปกติ เพราะตัวผู้เขียนไม่ได้เรียนเก่งเท่าเพื่อนๆคนอื่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ท่องจำ อ่านโพย พอสอบเสร็จก็ไปกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อน ตามสเต็ป แต่ตอนนี้ผ่านมาได้มากกว่าครึ่งเทอมแล้ว ชีวิตผู้เขียนวนลูปแบบนี้มาหลายรอบแล้ว และยังมีเสียงจากรุ่นพี่ในคณะด้วยว่า "เทอมหน้า หนักกว่านี้อีก" น่าท้อใจนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรหรอกบทความบทนี้ไม่ได้ถูกเขียนเพื่อให้กำลังใจคนอื่นเป็นจุดประสงค์หลัก แต่ผู้เขียนเขียนเพื่อให้กำลังใจตัวเอง และให้ตัวเองในอนาคตกลับมาอ่าน แล้วมองย้อนกลับมาว่า "ปีสองชั้นเจอกับอะไรมาบ้าง" ชีวิตจะได้รู้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า หนักแล้วยังมีหนักกว่า ผู้เขียนไม่รู้ว่าอนาคตจะเจอกับอะไรบ้าง แต่ขอเขียนบันทึก "การ survive ครั้งนี้ของชีวิต"คนภายนอกหลาบคนคงจะมองว่า "เห่ย แค่เรียนมหาลัย มันจะอะไรกันหนักกันหนา" แต่ผู้เขียนขี้เกียจจะเถียง ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังว่า ชีวิตเด็กอายุ 18 คนนึงเจออะไรบ้างในแต่ละวัน ในแต่ละอาทิตย์เริ่มที่วันจันทร์ เลคเชอร์เริ่ม 8.00 มี quiz เก็บคะแนนบ่อยๆ ทำให้ วันอาทิตย์ตอนเย็นๆค่ำๆดึกๆต้องอ่านหนังสือ จะได้มีความรู้มาทำ quiz เก็บคะแนนเพื่อรอดจากเกรดเอฟ เรียนเลคเชอร์เรื่อยๆถึง 11 โมงบ้าง 12 บ้าง กินข้าวเที่ยง 1 ชั่วโมง จากนั้นเข้าเรียนแล็ปต่อ อีก 3 ชั่วโมง แล็ปแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ lab physio,lab histo,lab gross ขอไม่บอกรายละเอียดในจุดนี้ จบวันจันทร์ต่อมาวันอังคาร เลคเชอร์เริ่ม 8.00 เรียนไปเรื่อยๆจนจบ 1 เรื่อง แล้วขึ้นผ่ากรอสต่อถึง 12.00 ซึ่งเวียร์ไม่เวียร์ก็จะแล้วแต่การผ่าในแต่ละวันว่าผ่าส่วนไหน ตอนบ่ายบางวันก็เรียน บางวันก็ว่าง แล้วแต่อาจารย์จัดให้เรียน วันไหนได้พักก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะมันเหนื่อยจริงๆวันพุธ เริ่มเรียนเลคเชอร์ตั้งแต่ 08.00-12.00 แต่เป็นเลคเชอร์ที่ไม่ได้หนักขนาดนั้น ตอนบ่ายเรียนอังกฤษเป็นวันชิวๆสบายๆ จึงปล่อยผ่านวันนี้ไปวันพฤหัส เรียนเลคเชอร์ และขึ้นแล็ป ตั้งแต่ 08.00-12.00 แล้วก็มีการนำเสนอในห้องเรียนกลุ่มย่อยบ้างบางอาทิตย์ ในช่วง 13.00-15.00 พอจบก็อาจจะมีประเด็นให้ไปศึกษาต่อ ก็นะ...วันศุกร์ จะเป็นวันที่ดีใจเป็นพิเศษเพราะ จะได้พักผ่อนสักที ก็เหมือนเดิม 08.00-12.00 แล้วเรียนแล็ปอีกตัวหนึ่งที่หนักและต้องใช้ความใจเย็นมากๆในตอนบ่ายถึงสี่โมงเย็น ชีวิตก็จะเป็นไท 3 วัน 2 คืนการผ่านไปของแต่ละอาทิตย์ตอนเรียนจะคิดว่า มันช้า แต่เมื่อใกล้สอบมันผ่านไปเร็วมาก สอบแทบจะทุกอาทิตย์ บอกตัวเองมาตลอดว่า "ไม่ไหวบอกไหว" ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนไปได้นานแค่ไหน อาจเพราะ passion ในใจมันยังไม่ได้มีมากขนาดนั้น แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่า จะพยายามให้ถึงที่สุดทีนี้ มาดูกันว่า เรา survive ยังไง ให้พอหาความสุขได้บ้าง ท่ามกลางกลางเรียนที่หนักหนาสาหัสเหมือนจะไปรบตลอดเวลา ดังที่เคยกล่าวเปรียบเทียบว่าชีวิตในมหาลัยก็เหมือนทะเล มันกว้างใหญ่ไพศาลมาก หากสังเกตในรูปให้ดี สังเกตมันจะมี speed boat อยู่ลำหนึ่งจอดเทียบฝั่ง รอคนขับออกไปอยู่ ตอนขับออกไป มันอาจจะมีคลื่น มีเกาะ มีวิว มีฉลาม มีปลาตัวเล็กตัวน้อย มีเรืออีกลำที่ใหญ่กว่า สวยกว่า มีขวดพลาสติกเล็กๆหลุดลอยมา มันไม่เป็นเรือด้วยซ้ำ บรรทุกใครไม่ได้ เพียงแต่ลอยอยู่แบบนั้น มีหาดทรายทั้งด้านที่พึ่งโดนพายุซัดฝั่งไป มีอะไรหลายๆอย่าง หากเราขับเรือไปเรื่อยๆแล้วน้ำมันไม่หมด สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกผู้อ่านคือ ชีวิตเรา "จะพบ" ทั้งสิ่งดีๆและสิ่งเลวร้ายควบคู่ๆกันไปเสมอ คงไม่มีใครสามารถยืนยันว่า ฟ้าหลังฝนจะสวยงาม เสมอ แต่ตอนฝนตก มันก็ยังมีข้อดีอยู่ ผู้เขียนจึงอยากให้ผู้อ่านทุกคน เมื่อพบประสบกับปัญหา หรือ พบกับความล้มเหลวใดๆก็ตาม "ลอง"มองข้อดีของปัญหาเหล่านั้น ลองเรียนรู้ไปกับปัญหา ว่าเราทำผิดพลาดอะไรตรงไหน ไม่มีความเจ็บปวดที่สูญเปล่า หากเราเรียนรู้ความเจ็บปวดเหล่านั้นได้ จง "let it go" บ้าง อย่าไปแคร์ทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตเคยมีคนบอกให้ "enjoy the little things" แค่อาหารมื้อนี้อร่อย มีเสื้อผ้าดีๆใส่ ตื่นไม่สาย ได้คุยได้หัวเราะกับเพื่อน ได้คุยกับพ่อแม่ ถามสารทุกข์สุขดิบ แค่นี้มันก็มีความสุขได้แล้ว ความสุขไม่จำเป็นต้องไปบริจาคเงิน หรือทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพียงแค่เรา"ค่อยๆ"ใช้ชีวิตประจำวันของเราอย่างเป็นสุข ชีวิตมันก็มีความสุขแล้วล่ะสุดท้ายนี้ ผู้เขียนของเป็นกำลังใจให้ ใครก็ตามไม่ว่าจะเป็น นกน้อย หรือ speed boat ทุกตัว,ทุกลำที่กำลังโลดแล่น บังคับพวงมาลัยเรือของตัวเอง ขอให้ทุกคนไปถึงฝั่งที่ตัวเองวาดไว้ทุกคนค่ะ You're a survivor , believe in yourself!!!จ๋า20/11/2019 ตอนตีสองครึ่ง ขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้วันพุธ ยังต้องไปเรียนหนังสือ
xsirjax • 21 พ.ย. 62
อ่าน
สุดยอดไปเลย! “เฟียต ภัชทา” ผ่านทุนเข้าร่วมโครงการ “University of Oxford” ประเทศอังกฤษ
สุดยอดไปเลย! เฟียต ภัชทา ผ่านทุนเข้าร่วมโครงการ University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพ สำหรับ เฟียต ภัชทา ซึ่งมักจะมีผลงานด้านต่างๆมาให้ชมเสมอ รวมทั้งเตรียมเข้าสู่บทบาทการเป็นศิลปินเดี่ยวด้วย แต่ความขยันของ เฟียต ยังคงไม่หมด เพราะล่าสุดหนุ่มคนนี้ผ่านทุนเข้าร่วมโครงการกับมหาวิทยาลัยระดับโลก University of Oxford ได้แล้ว โดยเจ้าตัวได้ทวิตข้อความว่า. ขอบคุณคำแนะนำดีๆครับ ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่ผมภูมิใจมากนะ ผมไม่เก่งอังกฤษเลย เรียกได้ว่าเป็นวิชาที่ไม่ชอบที่สุด แต่ก็หาจุดอ่อนของตัวเองแล้วก็พัฒนามันไปเรื่อยๆ อาจใช้เวลาหลายปีมากๆในการพัฒนาระดับภาษา ผมบอกกับแฟนๆตั้งแต่ช่วง 2018 ว่าอยากสื่อสารภาษาอังกฤษกับเขาให้ได้มากที่สุด เพื่อเราจะได้ Connect กับเขาให้มากเท่าที่พอจะเป็นไปได้ วันนี้ก็ยังคงพัฒนาตัวเองเรื่อยๆครับ ไม่มีใครสายหรือแก่เกินเรียนนะ ลองทำมันให้เต็มที่ถึงผลสุดท้ายอาจไม่ใช่ความสำเร็จ แต่เราจะได้เรียนรู้อะไรจากมันสักอย่างแน่นอน :)เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่นะครับ ต่อให้วันไหนไม่มีใครเชื่อคุณ คุณต้องเชื่อตัวเองให้มากๆนะ แม้ในวันที่คุณล้ม คุณก็ต้องลุกและสู้มันด้วยตัวคุณเอง ว้าวหล่อด้วยเก่งด้วยเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ครบเครื่องมากๆ และนี่แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายใครจริงๆ ดาราเดลี่ขอแสดงความยินดีกับ เฟียต ด้วยนะคะ
ดาราเดลี่บันเทิง • 23 ก.ย. 66
อ่าน
University of Michigan นี่เมืองหรือมหาวิทยาลัย
พาเที่ยวชม มหาวิทยาลัยมิชิแกน รัฐมิชิแกน ที่เมืองแอนอาร์เบอร์ เมื่อมาที่มิชิแกน ก็จะนึกถึงทะเลสาบมิชิแกน และเมืองดีทร้อยท์ ผมนึกถึงหนังเรื่อง 8 Miles ที่ เอมิเนม แสดง และทีมบาสเก็ตบอล ดีทร้อยพิสตัน แต่วันนี้จะพูดถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของประเทศอเมริกา นั่นคือ มหาวิทยาลัยมิชิแกน University of Michigan ซึ่งอยู่ที่เมืองแอนอาร์เบอร์ เมืองบรรยากาศผู้คนน่ารักอบอุ่น แต่ขึ้นว่ามิชิแกนแล้วที่นี่ไม่อุ่นนะจ้ะเพราะอยู่ทางเหนือของอเมริกาและที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็นและวันที่ผมไปเยี่ยมชมนั้นเองมีฝนตกลงมาอีกทำให้ยิ่งเย็นยะเยือกตลอดทาง แต่ไม่เป็นไรเราตั้งใจมาเยือนที่นี่แล้วต้องเที่ยวชมให้คุ้ม มหาวิทยาลัยมิชิแกน เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายด้าน เช่น การแพทย์ กฎหมาย ปรัชญา และกีฬาพวกเขาก็มีทีมดังระดับมหาวิทยาลัยนั่นคือ ทีมมิชิแกนวูลฟ์เวอรีน ทั้งทีมบาสเก็ตบอล และ อเมริกันฟุตบอล เรียกได้ว่าเชียร์กันมันประจำถิ่นเลย พื้นที่ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน กว้างมาก ๆ ขนาดที่ว่า เมืองทั้งเมืองคือ มหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ เพราะป้ายรถเมล์ จะจอดตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง ทางเดินจากตึกไปสู่อีกตึกหนึ่งมีความกว้างประมาณสนามฟุตบอล มีทั้งอาคารที่ดูเก่าและดูทันสมัย ทั้งที่เป็นส่วนของอาคารเรียนก็ดูมีศิลปะ ผมสังเกตเห็นว่าเกือบทุกตึกจะมีสัญลักษณ์อะไรบางอย่างอยู่ ถ้าไม่เป็นรูปปั้น ก็จะมีป้ายบอกชัดเจนว่าเป็นตึกอะไร ภายในมหาวิทยาลัยมีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก ต้นไม้ใหญ่ ๆ ก็ทำหน้าที่ให้ร่มเงาในเวลาแดดร้อน ผมเดินสำรวจไปจนถึงบริเวณโซนบ้านพัก เห็นพื้นที่แล้วตกใจครับ นึกว่าอาณานิคมหรือ หมู่บ้านขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือมันอยู่ในเขตมหาวิทยาลัย บ้านพักพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามเทนนิส สวนหย่อม ร้านค้า สิ่งที่ไม่เห็นคือโรงภาพยนตร์เท่านั้นเอง เอ๊ะ หรือ จะมี สมแล้วที่มีนักศึกษาจำนวนกว่าสี่หมื่นคน ครับใช่แล้ว กว่า 40,000 คน พุดถึงความกว้างขวางใหญ่โตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว มันใหญ่จริง ๆ ครับ บางครั้งอาจจะใหญ่เท่ากับเมืองหาดใหญ่ที่ผมอยู่ก็ได้ สิ่งที่ผมเห็นแล้วชอบอีกอย่างก็คือ อาคารสำหรับกิจกรรมของนักศึกษาที่นี่ เป็นอาคารที่ทันสมัยมาก มีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องออกกำลังกาย คอมพิวเตอร์และห้องพัก ดูแล้วมันทันสมัยไปเสียหมด แต่ถ้าหากจะพูดถึงค่าเทอมของที่นี่แล้วอยู่ในเรตที่แพงมาก ๆเลย สำหรับคนไทยต้องจ่ายถึง 51,976 ดอลล่าร์ ต่อหลักสูตร หรือประมาณ หนึ่งล้านห้าแสนบาท นั่นเองใครได้มาเรียนที่นี่นอกจากค่าเทอมแพงแล้วได้คามรู้คุ้มค่าแน่นอน ทั้งสถานที่ดี สังคมดี วิชาดี นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นมหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่อีกด้วย จะเห็นว่าไม่มีคนสูบบุหรี่เลย ชอบตรงนี้ของสังคมอเมริกัน ถ้าอะไรที่เป็นข้อตกลงแล้วทุกคนจะเคารพกฎมากจะไม่มีใครฝ่าฝืนเลย สภาพบ้านเมืองจึงเป็นระเบียบเรียบร้อยมากน่าชื่นชมจริง ๆ ผมสนใจอยากจะเรียนต่อให้ถึงระดับปริญญาเอก เล็งเห็นแล้วว่าที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนนี้มีสาขาวิชาที่ผมอยากเรียนด้วย แต่เห็นทีค่าเรียนคงแตะห้าล้านบาทมีแน่นอน เห็นทีคงต้องขอตัวไปปั่นงานสร้างรายได้เพิ่มต่อก่อนนะครับแล้วค่อยคิดเรื่องเรียนกันใหม่ อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็ถือเป็นแหล่งการศึกษาชั้นนำที่มีบรรยากาศยอดเยี่ยมมาก ๆ จะเรียนหรือไม่แต่หากได้มีโอกาสมาเมืองนี้อย่าลืมมาเที่ยวชมที่นี่ University of Michigan ภาพทุกภาพโดย Witoo
Daniel Witoo • 2 เม.ย. 63
อ่าน
Taxation on libra
ในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มจะดิ่งลงเหว แต่ก็มีข่าวดีจากฝั่งอเมริกาเรื่องสกุลเงินดิจิทัล ที่ออกโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ คือ Facebook ที่ปีนี้สร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม เศรษฐกิจ และกฎหมายไปยังหลายประเทศ Cr ภาพ: https://pixabay.com/illustrations/libra-crypto-currency-facebook-4284008/ มองโดยผิวเผิน ตัว libra coin (token) ก็น่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่เราอาจมอง Libra เป็นเสมือนสกุลเงินต่างๆที่เราคุ้นเคย เช่น บาท ดอลลาร์ ยูโร เยน หยวน ฯลฯ แต่จุดต่างคือ libra จะใช้ในบริบทของ e-commerce เสียมากกว่า เข้า concept ที่ว่าเปลี่ยนมือได้ง่าย ไม่ค่อยผันผวน (ตามที่ facebook โฆษณาไว้) ด้วยเหตุนี้ จึงมีนักลงทุนมอง libra เพิ่มอีกสถานะ คือ การลงทุนเฉกเช่น หุ้น ที่มีราคาขึ้นลง เพื่อเอาไว้เกร็งกำไร เช่น สมัยซื้อ libra มามีมูลค่าถูก แต่พอนานไปมูลค่าของ libra กลับแพงขึ้น ส่วนต่างนั่นแหล่ะครับเรียกว่าส่วนล้ำ (ราคาขาย-ต้นทุน) เห็นๆ (กำไร) แต่ปัญหาคือ กำไรหรือส่วนล้ำนั่นน่าจะถือเป็นเงินได้ที่อาจต้องนำมาเสียภาษี หลายท่านอาจเถียงว่านั่นเป็นสกุลเงินจะเสียอย่างไร? ถูกของท่านครับ แต่อย่างที่เรียนคือ libra มีสองหมวก (สถานะ) คือ เป็นสกุลเงินและสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ผมจึงเถียงว่าเราไม่ได้มอง libra เป็นสกุลเงิน แต่เรามอง libra เป็นเสมือนหุ้นที่มีมูลค่าขึ้นลง เมื่อผู้ถือ libra มีกำไรจากการขายก็จำต้องเสียภาษีหรือไม่ครับ? แต่อย่างไรก็ดีผมคงสะท้อนได้เพียงมุมมองทางวิชาการ แต่การจะเก็บภาษี libra นั้นก็สุดแท้แต่กรมสรรพากรนะครับ ผมรออ่านอยู่ครับ Cr ภาพ: https://pixabay.com/photos/libra-crypto-currency-facebook-4338939/ ในแนวทางเบื้อง สรรพากรเองมองว่าส่วนล้ำมูลค่าของ libra นั้นจะถูกหัก 15% ของส่วนล้ำ โดยผู้ที่จ่ายเงินได้มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่ายก่อนส่งมอบส่วนล้ำมูลค่าแก่ผู้รับเงินได้ (อ้างอิง https://www.posttoday.com/finance-stock/news/593329) หากมองในบริบทของภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น เราต้องมอง Libra เป็นสกุลเงิน เพื่อชำรำค่าสินค้าหรือบริการ เมื่อมีการใช้ Libra เป็นสกุลเงินในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการมีหน้าที่นำส่ง Vat (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ที่เมื่อมีการใช้และบริโภคภายในประเทศ ก่อนที่จะจบบทความนี้ผมขอย้ำอีกสักครั้งว่า Libra มีสองหน้าที่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ว่า จะนำไปใช้เพื่ออะไรระหว่างลงทุนหรือชำระค่าสินค้าหรือบริการ อย่างไรก็ดี พวกเราในฐานะผู้ใช้/รับบริการจึงต้อง จับตามองว่ากระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีความชัดเจนต่อการใช้ Libra อย่างไร Cr ภาพ: https://pixabay.com/illustrations/libra-crypto-currency-facebook-4283995/
นิติภัทร หอมละออ • 14 พ.ย. 62
อ่าน
Monsters University ความสำเร็จ ที่ได้มาจากความพยายาม
Monsters University เป็นหนังแอนิเมชันภาคต่อที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอีกเรื่องหนึ่งของ Disney Pixar ซึ่งได้เล่าย้อนไปถึงการพบกันของสองเพื่อนซื้ Mike Wazowski และ James P. Sullivan ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนกันได้ แต่สิ่งที่ทำให้ Monsters University ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากเนื้อเรื่องที่แสดงถึงความพยายามของปีศาจตัวเขียว Mike Wazowski ที่ได้สะท้อนเรื่องราวความพยายาม ความที่ไม่ได้เกิดมาเหมือนปีศาจตัวอื่นที่มีความน่ากลัว แต่ด้วยสิ่งที่เขามีและสิ่งที่เขาทำได้ มันช่างยิ่งใหญ่กว่าภาพลักษณ์ที่หลายคนมองมากนัก นี่จึงทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” Mike Wazowski เป็นปีศาจที่มีความน่านรักมากกว่าความน่ากลัวและตัวของเขาเองก็ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นปีศาจที่น่ากลัวตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งเขาได้รับแรงบัลดาลใจเมื่อได้เข้าไปทัศนะศึกษาที่บริษัทรับจ้างหลอนแล้วหลงเข้าไปในห้องที่เหล่าปีศาจนั้นสร้างความหลอนให้กับเด็ก ๆ เพื่อเอามาเป็นพลังงานในโลกของ Monsters และนี่คือจุดเริ่มต้นของความพยายามที่ตัวของ Mike Wazowski ที่อยากจะเป็นปีศาจที่น่ากลัวให้ได้ด้วยความพยายามอย่างแนวแน่ที่จะได้เข้าสู่มหาลัยชั้นนำอย่าง Monsters University ที่เป็นมหาลัยที่ตัวของเขานั้นอยากที่จะเข้ามาศึกษาและจบไปด้วยความฝันที่ว่าจะต้องไปเป็นนักเขย่าขวัญที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ Mike Wazowski พยายามอย่างหนัก ท่องตำราทุกเล่ม จำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับความเขย่าขวัญ นั่นเลยเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดถึงความพยายามที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของคนเราได้เป็นอย่างดี มีในช่วงหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่ Mike Wazowski ได้เจอกับ James P. Sullivan ในการทดสอบการเขย่าขวัญในการสอบปลายภาคเรียนและทั้งสองได้มีปากเสียงกันในห้องสอบนั้น โดยประโยคที่ Mike Wazowski กล่าวว่า “ฉันไม่เหมือนนาย ฉันต้องขยันเพื่อให้ได้เรียนอยู่ในขณะนี้ต่อ” นี่คือคำพูดที่ทำให้ตัวของผู้เขียนเองรู้ว่าเป้นคำที่แสดงถึงความตั้งใจ ความพยายาม เพราะในโลกของความจริงไม่ว่าจะในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ในที่ทำงานเอง ทุกคนนั้นมีต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน บางคนมีความรู้พร้อมที่จะเติบโต บ้างคนมีฐานะทางบ้านที่ไม่ต้องดิ้นรน บางคนเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีพร้อม จึงต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่นที่เขานั้นพร้อมนทุกด้าน เหมือนกับตัวของ Mike Wazowski ที่ไม่ได้เกิดมาเป็น Monsters ที่น่ากลัว แต่เขาพยายามใช้ความรู้ที่มี เอาตัวรอดจากกสถานการณ์ที่ได้หลงเข้าในโลกมนุษย์และพาตัวเองพร้อมกับ James P. Sullivan ได้สำเร็จ เช่นเดียวกันหากทุกคนมีพร้อมแต่ไม่ได้หาความรู้ เพิ่มเติม ไม่มีความพยายามที่จะไขว่คว้าหาความสำเร็จ สิ่งที่มีพร้อมก็ไม่สามารถทำให้ตัวของเรานั้นประสบความสำเร็จได้เช่นกัน อีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่ไม่พร้อมในหลายด้าน แต่ไม่ได้ยอมแพ้ต่อสิ่งที่ไม่พร้อมที่ให้มาเมื่อถึงวันที่ประสบความสำเร็จในจุดหนึ่งของชีวิตแล้วมองกลับไป จะเห็นว่าสิ่งที่พยายามมานั้นไม่ได้สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาหรือปัญหาที่ตรงหน้าก็พอ หลายคนมักจะมีข้ออ้างให้กับตัวเองเสมอในเรื่องของความไม่พร้อมและไม่เคยทำอะไรประสบความสำเร็จ แต่อยากให้ลองถามตัวเองดูก่อนว่า เราพยายามมากพอหรือยัง เราพยายามหาทางออกจริงหรือไม่ เราเต็มที่แล้วจริงหรือเปล่า หรือเพียงแค่นั่งโทษกับสิ่งที่ตัวเองเกิดมาแล้วมีไม่เหมือนใครเท่านั้นเอง ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากความพยายาม ณ เวลาปัจจุบันมากกว่า อย่าโทษสิ่งรอบข้างหากยังไม่พยายามมากพอ หากเกิดความท้อในจิตใจลองหันไปมองตัวการ์ตูนที่ชื่อ Mike Wazowski ที่ฝ่าฟันคำดูถูกตั้งแต่เด็กจนพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่า เขานั้นก็น่ากลัวเหมือนกับปีศาจตัวอื่นเช่นกันเครดิตภาพ imdb.com , ภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3
เทพ สุวรรณ • 5 พ.ค. 63
อ่าน
คอร์สเรียนฟรี English for STEM : University of Pennsylvania
เมื่อปีก่อนผู้เขียนได้สมัครเรียนคอร์ส English for Science, Technology, Engineering, and Mathematics (English for STEM) ของ University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นถึงหนึ่งใน Ivy League หรือมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำระดับโลก เมื่อทางมหาวิทยาลัยมีการเผยแพร่การเรียนการสอนฟรีออนไลน์ มีหรือที่จะยอมปล่อยให้โอกาสหลุดมือ สำหรับเว็บไซด์ที่ใช้เรียนคลาสออนไลน์นั้นมีชื่อว่า www.coursera.org มีคอร์สให้เลือกเรียนฟรีหลายพันคลาส จากทุกมหาวิทยาลัยทั่วโลกPhoto by : Canvaสะเต็มศึกษา (STEM Education) ย่อมาจาก Science Technology Engineering and Mathematics Education หากแปลเป็นภาษาไทย มันคือแนวทางการศึกษาที่มีการรวม ศาสตร์วิชาทางด้าน วิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เข้าไว้ด้วยกันในหลักสูตรเดียว ประเทศแรกที่คิดค้นสะเต็มศึกษา คือประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดประสงค์ในการประยุกต์ศาสตร์วิชาทั้งสี่ มาใช้เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตPhoto by : Unsplashสำหรับ English for STEM นั้น จะเป็นการสอนด้วยภาษาอังกฤษทั้งหมด เนื้อหาของหัวข้อที่จะพูดถึงในคลาสนั้นเกี่ยวกับ นาโนเทคโนโลยี พลังงานโซล่าร์เซลล์ และการสอนใช้ภาษาอังกฤษสำหรับงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ มีบทเรียนอยู่ทั้งหมด 2 ยูนิต โดยแต่ละสัปดาห์ใช้เวลา 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 สัปดาห์ สำหรับท่านใดที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษกับวิชาสะเต็มศึกษา สามารถเรียนได้จนจบคอร์สโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ท่านที่ต้องการใบประกาศนียบัตรจาก University of Pennsylvania ต้องทำการบ้าน ตอบคำถามระหว่างเรียน และหลังเรียน ร่วมกับเพื่อน ๆ ที่กำลังเรียนออนไลน์อยู่ทั่วโลก ทั้งทางการพิมพ์ และทางวีดีโอ หากมีคะแนนรวมในปลายภาคต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ทางมหาวิทยาลัยจะไม่สามารถออกใบประกาศนียบัตรให้Photo by : WriterPhoto by : Writerเมื่อสอบผ่าน ขั้นตอนต่อไปคือ การจ่ายเงินซื้อใบประกาศนียบัตรค่ะ สำหรับราคาใบประกาศนียบัตร คอร์ส English for STEM ของมหาวิทยาลัย UPenn อยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท (49$) ความรู้ที่ได้จากการเรียนคอร์สนี้คือ ได้ฝึกการทดลอง การคิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา, ฝึกการใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง, ฝึกการสื่อสารกับผู้อื่น และวิจารณ์บทความอย่างมืออาชีพ แถมยังได้ใบประกาศนียบัตรไว้ประดับประวัติการสมัครงานอีกด้วยค่ะท่านใดที่สนใจสามารถสมัครเข้าศึกษาคอร์ส English for Science, Technology, Engineering, and Mathematics ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ค่ะhttps://www.coursera.org/learn/stemCover photo by : Pexels
Porderland • 26 มี.ค. 63
อ่าน
Review มหาวิทยาลัยใน UK : University of Glasgow #UofG
สวัสดี เพื่อน ๆ ชาว True ID In-Trend ค่าวันนี้ คริส จะขอพื้นที่มา รีวิว และ แนะนำ มหาวิทยาลัยที่ คริส เคยไปเรียนเป็น เวลากว่า 1 ปีค่ะ ซึ่ง มหาลัยฯที่ว่า ก็คือ...University of Glasgowหรือก็คือ มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ค่ะ หลาย ๆ คน อาจจะไม่คุ้นเคย กับ ชื่อเมืองนี้ ว่า เอ๋? มีเมืองนี้ด้วยเหรอ? อยู่ที่ประเทศอะไร? อยู่ตรงไหนของโลก?คริส จะอธิบายให้ฟังค่ะ เมืองกลาสโกว์ เป็น เมืองใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ สก็อตแลนด์ (ไม่ใช่เมืองหลวงนะคะ เมืองหลวงของประเทศนี้คือ Edinburgh อ่านว่า เอดินบะระ) สก็อตแลนด์เป็น 1 ใน 4 ของ UK (United Kingdom) ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศ อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ค่ะ ส่วน สก็อตแลนด์ จะเป็นประเทศที่อยู่ ทางด้านเหนือ ของอังกฤษ ค่ะ หากนั่ง รถไฟจาก ลอนดอน ถึง กลาสโกว์ ก็อาจใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงเลย ทีเดียว หลังจากรู้จักเมืองกลาสโกว์คร่าวๆแล้ว คริส ขอเข้าเรื่องมหาลัยฯ ต้องบอกว่าเมืองกลาสโกว์มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งมาก ๆ ค่ะ แต่ที่วันนี้ คริส จะมา รีิวิว นั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน มหาลัยที่เก่าแก่ที่สุดใน UK ค่ะ (เก่ารองจาก Oxford, Cambridge และ St. Andrew) ซึ่งมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ก็มีประวัติความเป็นมา ยาวนานมากว่า 500 ปีแล้ว ค่ะ Cr. KittyChloéKrystal ซึ่งที่ในบทความนี้ คริส ขออนุญาตเรียก มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ว่า UofG นะคะ ย่อมาจาก University of Glasgowต้องบอกก่อนว่า สาเหตุ ที่คริส เลือกไปที่นี่ เพราะว่า มหาวิทยาลัยสวยมากกก และก็เป็น มหาวิทลัยที่สวยที่สุด อันดับต้น ๆใน UK เลยแหละค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือน Harry Potterส่วน Ranking ของ UofG ก็ไม่ได้ขี้ริ้ว ขี้เหร่ อะไรเลยนะ ถือว่าอยู่ในกลุ่มระดับกลาง-ต้น ๆ เลยค่ะ แล้วแต่สาขาวิชา แต่สาขาวิชาที่เด่น ๆ ของที่นี่เลย จะเป็นพวก สัตวแพทย์ กฎหมาย และ การเงิน ค่ะว่าถึงเรื่อง ค่าเทอม ก็จะแตกต่างกันไป แล้วแต่สาขาวิชา ส่วนตอนที่ คริส ไปเรียน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 19,000 GBP (คริสเรียน Msc. Management) ซึ่ง ค่าเทอม ก็จะมีการ ปรับขึ้นทุกปี แต่ที่นี่ก็ถือว่า ราคาไม่แรงมาก ถ้าเทียบกับ มหาลัยฯอื่น ๆ ใน UK ค่ะ หรือ เพื่อนๆ สามารถหาทุน จากมหาลัยได้ ผ่าน Agency ก็ได้ค่ะ ตอนนั้น คริส ไปของ Mcducation เขาจะช่วยเราเรื่องขอทุนด้วยCr. KittyChloéKrystal การเรียน การสอน ของที่นี่ ก็จะเหมือนมหาวิทยาลัยทั่ว ๆ ไป ใน UK เลยค่ะ คือ เรียน 1 ปี โดยแบ่งเป็น 2 เทอม และอีก 3 เดือน สุดท้าย จะเป็นการเขียน Dissertationซึ่ง หลายๆ คน อาจจะคิดว่าเรียน สั้นจัง แค่ 1 ปี แต่ คริส ขอบอกว่าเป็น 1 ปีที่ เข้มข้น มากค่ะ เรียกได้ว่า เนื้อ ๆ เน้น ๆคริส ฝังตัวอยู่ในห้องสมุดประมาณวันละ 6 ชั่วโมงตอนช่วงเขียน Dissertation T^Tยังมีบางคน กลัวการมาเรียนต่อที่ กลาสโกว์ กลัวฟังอาจารย์พูดไม่รู้เรื่อง บ้างล่ะ กลัวฟังสำเนียงกลาสโกว์ไม่รู้เรื่อง บ้่างล่ะ แต่สำหรับ คริส นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ ไม่ใช่ว่า คริส เก่ง หรือ อะไร แต่เพราะ อาจารย์ที่นี่ หลากหลายมาก เรียกว่าเป็นสังคม International สุดๆ เพราะฉะนั้น แทบจะไม่ได้ยินสำเนียง Glaswegian ในมหาลัยฯเลยค่ะ ส่วนมาก จะเป็นเวลา ไปช๊อปปิ้ง ซื้อของ มากกว่า ที่จะเจอคน local จริง ๆ Cr. KittyChloéKrystal มาถึง เรื่อง สังคม และ เพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัย ต้องบอกว่า มหาลัยตั้งอยู่ใน ฝั่งตะวันตก ของเมืองค่ะ ซึ่งเมืองนี้ก็เป็นเมือง ง่ายๆ ค่ะ อยู่แล้ว ยิ่งเป็นโซนมหาลัยฯ ก็ ค่อนข้าง ปลอดภัย เลยค่ะเพื่อน ๆ ส่วนมาก ที่ คริส เจอ จะเป็น เพื่อน คนจีนประมาณ 80% ค่ะ อีก 20% ก็คละ ๆ กันไป แต่เพื่อน คนไทย ก็มีบ้างค่ะ ส่วนคน local จริง ๆ ส่วนมากจะเรียนระดับ undergrad (ปริญญาตรี) กันซะมากกว่าค่ะ ส่วนพวก postgrad (ปริญญาโท) ส่วนใหญ่จะเป็น คนต่างชาติCr. KittyChloéKrystal มาถึงเรื่อง อากาศ เขาว่ากันว่า ที่นี่ มี 4 ฤดู ค่ะ คือ Summer, Autumn, Winter and Spring แต่ความเป็นจริง คริส ขอบอกว่ามีแค่ ฝน หนาว ฝน หนาว ฝน หนาว ที่นี่หน้าร้อนมีแค่ 3 วันใน 1 ปี ค่ะ 3 วันที่ว่าคือ ร้อน จริง ๆ นอกนั้น หน้าร้อนก็จะเป็นอากาศ เย็น ๆ สบาย ๆ ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นช่วง พีค ของที่นี่ เพราะไม่หนาวมาก อากาศเย็นสบาย ที่สำคัญกว่าฟ้าจะมือ ก็ 3 ทุ่มนั่นแหละค่ะ ก็อยู่กันไปยาว ๆ เพราะที่นี่ส่วนมากจะ หนาว ถึงขั้น ติดลบเลย ในหน้าหนาว แล้วก็ยังไม่พอ ฝนยังตก พรำ ๆ ซึ่ง ฝนที่นี่ เป็น ฝนรำคาญ ค่ะ คือว่า มันจะตกทั้งวัน ตกไม่แรง แต่ตกไม่หยุด เพิ่มความหนาว ให้เราไปอีก สุดท้าย ก็วนมาถึงเรื่อง ค่าครองชีพ ต้องบอกว่า ที่ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นโซนมหาวิทยาลัย จะมีค่าครองชีพที่แพงกว่าโซนในเมือง ค่ะ แต่ถ้าหากคำนวณกันจริง ๆ ก็ไม่ได้แตกต่าง อะไรมากมาย ถ้าแลกมากับความปลอดภัย และ ความสะอาด (ทั้งนี้ ก็แล้วแต่ ตัวคนใช้ด้วยจ้า ถ้าเป็น สายไม่ทำอาหาร ก็อาจจะต้อง เปย์ หนักหน่อย) และหากถ้าเทียบกับ เมืองอื่นๆใน UK คริส ว่า Glasgow ก็ไม่ได้เป็น ตัวเลือกที่แย่ เลยค่ะ เพราะ ราคาไม่สูง ranking โอเค ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้าง ตอบโจทย์ คริส ในหลาย ๆ เรื่อง ยังไง คริส ก็อยากให้เพื่อน ๆ เปิดใจ และ ลองมาเรียนที่ สก็อตแลนด์ ดูบ้างนะ อิอิก่อนจะลา คริส หวังว่า บทความของคริส จะเป็นประโยชน์ สำหรับ เพื่อน ๆ คนไหน กำลังสนใจ จะไปเรียนต่อ ที่ UKหากมีีคำถามอะไรอยากสอบถาม คริส ยินดีที่จะตอบ ทุก ๆ คน เลยค่าแล้วเจอกันใหม่น้าาWritten by: KittyChloéKrystal
KittyChloKrystal • 26 ก.พ. 63
อ่าน
งานวันเด็ก กับ โครงการมหาวิทยาลัยเด็ก Kids University by KMITL
กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ คือ วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ซึ่งในปี 2563 วันเด็กแห่งชาติตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ค่ะ โดยวันนี้จะมีสถาบัน หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจัดของขวัญและกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ร่วมสนุก มากมาย เด็กๆ เราอาจยังไม่รู้ว่าอนาคตนั้นจะต้องประกอบอาชีพอะไร หากแต่ผู้ปกครองได้เสริมสร้างให้เด็ก ๆ ได้รู้จักอาชีพต่างๆก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจในตนเอง สามารถเลือกอาชีพที่ตนชอบและทำได้งานวันเด็กได้เปิดโอกาสให้เด็กมาสัมผัสอาชีพมากมายผ่านทางสถาบัน หน่วยงาน ที่ประกอบอาชีพนั้น ๆ และที่ สจล.นี้ ได้รวบรวมกิจกรรมเสริมทักษะไว้ให้เด็กได้เตรียมศักยภาพความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการตรวจสุขภาพ ทำนายดวง รับประทานอาหาร และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ที่สำคัญฟรีตลอดงานค่ะในวันเด็กทาง สจล. เปิดตัวโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก Kids University by KMITL ภายใต้แนวความคิด #KMITLGOBEYONDTHELIMIT เนื่องในวาระครบรอบ 60 ปี สถาปนาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อสร้างอัจฉริยะทั้ง 5 ด้านโดยในวันเด็กมีกิจกรรมเสริมทักษะให้เด็กมีศักยภาพตามคาเรคเตอร์อัจฉริยะ 5 ด้าน ได้แก่Innovation Creativity นักคิดสร้างสรรค์ นักสร้างนวัตกรรม มีฐานการเรียนรู้ ดังนี้1. รถแข่งพลังงานลม 2. มหัศจรรย์เครื่องบินจำลอง 3. หุ่นยนต์แปรง 4. Mission to the moonScientific Thinking นักค้นหา นักวิทยาศาสตร์ มีฐานการเรียนรู้ ดังนี้1. ภูเขาไฟจำลองจากยีสต์ 2. My Ambulance (คุณหมอตัวน้อย) 3. สวนเสียง 4. KMIDS Science SlideDigital Media Production นักสื่อสาร นักเทคโนโลยี มีฐานการเรียนรู้ ดังนี้1. จุดเริ่มต้นสู่นักโปรแกรมรุ่นจิ๋ว 2. พิธีกร นักพูด Youtuber 3. Hey Kids!! What is your name?Leadership ผู้นำความคิด นักวางแผน นักแก้ปัญหา มีฐานการเรียนรู้ ดังนี้1. นักสืบจิ๋ว 2. การพัฒนา EF ผ่านการทำงานบ้านและการทำของเล่น 3. นักการจัดการตัวน้อยArtist ศิลปิน นักแสดง มีฐานการเรียนรู้ ดังนี้1. ศิลปะและการออกแบบสำหรับเด็ก 2. คัพเค้กหรรษา 3. ศิลปะสร้างสรรค์ (ฉีก ตัด แปะ)พาลูกหลานของท่าน วัย 4-12 ปี มาร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมและลุ้นของรางวัลส่งเสริมค้นหาตัวตนของลูกหลานของท่านในวัยเด็กกับมหาวิทยาลัยเด็ก โดย KMITL ค่ะเว็บไซต์ : http://kidsu.kmitl.ac.th/ , http://www.kmitl.ac.th/ และfacebook fanpage @kmitlofficial , @KidsUniversitybyKMITLสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-3298220ลงทะเบียนและตรวจสอบรายชื่อเข้าร่วมโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก สจล.ได้ที่ http://kidsu.kmitl.ac.th/
Penny • 1 ก.พ. 63
อ่าน
มีอะไรดีที่ Universitas Islam Sultan Agung ทำไมเด็กไทยถึงชอบไปเรียน
ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษา ผมคิดว่ามีใครหลายคน ที่อยากจะได้รับการศึกษาที่ดี อยากได้เรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ หรือ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ หรือ มหาลัยที่มีชื่อเสียง และสำหรับใครหลายคนเหมือนกัน ที่มีความฝันอยากจะไปศึกษาต่างประเทศ ที่ผมเกริ่นแบบนี้ เพราะผมอยากจะมาแบ่งปัน เพราะตอนนี้ผมก็เรียนอยู่ต่างประเทศเหมือนกัน ผมก็เป็นหนึ่งคนที่มีความฝัน ผมก็เป็นหนึ่งคนที่อยากได้รับ การศึกษาดี ๆ วันนี้เราจะมาพูดเรื่องมหาวิทลัยแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย มหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็คือ Universitas Islam Sultan Agung ( มหาวิทยาอิสลามสุลต่านอากุง) หรือ Unissula (อูนิสสูลา)มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1962 ก่อตั้งขึ้นมาโดยมูลนิธิสุลต่านอากุงวากาฟ (YBWSA) ชื่อสุลต่านอาฆุง ถูกนำมากจากชื่อของซุลต่านอากุง (ราชาผู้ยิ่งใหญ่) ซึ่งเป็นหนึ่งในวีรบุรุษของชาติอินโดนีเซีย สุลต่านอากุงมีชื่อเต็มว่า Adi Prabu Hanyokrokusukomo ซึ่งเกิดในปี 1593 ซุลต่านอากุง ได้ขึ้นปกครอง Mataram (มาตารัม) ในปี 1613-1688 ภายใต้การปกครองของสุลต่านอากุงแห่งมาตารัมนั้น ได้มีการพัฒนาเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในเกาะชวาและเกาะอื่น ๆ ของประเทศอินโดนีเซียในเวลานั้นครับผมก็ได้มาศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เลย อยากจะแบ่งปันหลาย ๆ สิ่งที่ผมได้พบเจอที่นี้ให้ผู้อ่านที่น่ารักของผมได้อ่านกัน ผมได้มาศึกษาที่นี้ในระดับปริญญาตรีครับ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีนักศึกษาไทยอยู่แล้ว ก่อนผมมาถึง 3 รุ่นด้วยกัน ที่นี้อบอุ่นมาก เพราะมีพี่ๆ คอยให้คำแนะนำ ในช่วงแรกๆ ที่ผมมา ที่นี้เหมือนประเทศเราเลยครับ ที่นี้ไม่เหงาเลยครับ เพราะมีนักศึกษาไทยอยู่แล้ว เกือบ 30 คนด้วยกัน ที่นี้สนุกมากเลย เพราะอย่างที่รู้กันว่าประเทศอินโดนีเซีย มีหลายอย่างที่น่าสนใจมาก ทั้งเรื่อง ภาษา วัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์ ที่นี้มีหลายอยางที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด และ ในเรื่องอาหารการกิน ที่นี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากบ้านเรามากหนัก แค่ เครื่องเทศฉุนกว่าบ้านเราเองครับ 555555มหาลัยวิทยาลัยแห่งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเด็กไทยที่มีความฝันอยากเรียนต่างประเทศหรือมีความฝันอยากเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ ผมก็ขอฝากไว้แค่นี้น่ะครับกับ มหาวิยาอิสลามซุลต่านอากุง เมืองเซอมารัง จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซียตำเเหน่ง Semarang Jawa tengah Indonesiaรูปภาพทั้งหมดจากผู้เขียนเอง (ช้างน้อย)
ช้างน้อย • 21 มี.ค. 63
อ่าน
5 คอร์สเรียนเขียนโปรแกรมจาก Harvard, Microsoft, Columbia University, W3C
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ เรา sone4eva เองนะคะ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้ ไปเข้าเรียนเนื้อหาการเขียนโปรแกรมจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และบริษัทชื่อดังกันค่ะ นั้นก็คือ Harvard, Microsoft, Columbia university, W3C นั่นเองค่ะ หลายคนที่เห็นชื่อมหาวิทยาลัยกับบริษัทแล้ว อย่าพึ่งปิดบทความนี้นะคะ บางคนอาจจะคิดว่า โฮ้ !! ภาษาอังกฤษนี้นะ ไม่ไหวหรอก แต่เราอยากจะบอกว่าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนพอที่จะมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมมาบ้างสักเล็กน้อย เพื่อน ๆ จะสามารถเข้าใจเองโดยที่ไม่ต้องเข้าใจภาษาอังกฤษเลย หรือที่โปรแกรมเมอร์หลายคนมักจะพูดว่า ภาษาโปรแกรมมันจะทำให้เราเข้าใจเองนั่นเอง หลังจากที่เกริ่นมายาวมากแล้ว เราไปรู้จักกันเลยดีกว่าว่ามีคอร์สเรียนอันไหนกันบ้าง let’s go++++ 1. Computer Science and Mobile Apps ( Harvard university ) สำหรับคอร์สนี้นั้นเป็นคอร์สจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นั่นเองค่ะ เป็นคอร์สที่สอนเกี่ยวกับ การทำแอปพลิเคชันบนมือถือ และ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัววิทยาการคอมพิมเตอร์นี้ก็จะควบคุมหลายอย่าง เช่น แนวคิดที่ดีในการเขียนโปรแกรม อัลกอริทึม โครงสร้างข้อมูล และ ภาษาต่าง ๆ ( C, Python, JavaScript, SQL, CSS, HTML ) 2. Computer Science for Web Programming ( Harvard university ) เป็นคอร์สจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เป็นคอร์สที่สอนเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์ หรือเว็บแอปพลิเคชันนั่นเองคะ เพื่อน ๆ จะได้เรียนทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการทำเว็บไซต์ ทั้ง การเขียนโค้ดที่ถูกต้อง การออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน และยังได้เรียนภาษาที่เกี่ยวข้องกับการเขียนเว็บอีกหลายภาษาเช่น C, Python, SQL,JavaScript ,CSS , HTML3. Artificial Intelligence ( Columbia university ) คอร์สนี้เป็นคอร์สที่กำลังมาแรงมาก ๆ เพราะว่าเป็นคอร์สที่เกี่ยวกับการทำ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั่นเองค่ะ คอร์สนี้จะได้เรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำ AI นอกจากนี้คอร์สนี้ยังสอนเรื่องการประยุกต์ใช้ AI ให้เข้ากับปัญหาของมนุษย์ และแอปพลิเคชันอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนเกี่ยวกับการทำ AI อยู่ล่ะก็อย่าพลาดเชียวนะคะ4. Front-End Web Developer ( W3C ) คอร์สนี้เป็นคอร์สที่เกี่ยวกับทำเว็บไซต์โดยเฉพาะ และยังเจาะจงการทำหน้า ui โดยเฉพาะอีกด้วย คอร์สนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษา HTML และ tag ต่าง ๆ เช่น รูปภาพ ขนาดตัวหนังสือ ลิงก์ และยังได้เรียนการตกแต่งหน้าเว็บไซต์ด้วยภาษา CSS อีกด้วย และยังได้เรียนภาษา JavaScript อีกด้วย5. Introduction to C++ ( Microsoft ) เป็นคอร์สจาก Microsoft สอนเกี่ยวกับพื้นฐานภาษา C++ ทุกอย่าง ทั้งกระบวนการคิด กระบวนการเขียน กระบวนการออกแบบฟังก์ชันเพื่อใช้งาน พูดง่าย ๆ ก็คือเกือบจะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับภาษา C++ เลยทีเดียว ใครที่กำลังสนใจ C++ อยู่แล้วล่ะก็ อย่าพลาดเชียวนะคะ เป็นยังไงบ้างค่ะ ทั้ง 6 คอร์สที่เราพูดถึงไป เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ หรือสมัครเรียนโดยการ “ Click ” ตรงชื่อคอร์สแต่ละข้อได้เลยนะคะ เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ +++ byebye +++รูปภาพหน้าปก รูปภาพโดย freddie marriage on Unsplashรูปภาพที่ 1 รูปภาพโดย sone4evaรูปภาพที่ 2 รูปภาพโดย sone4evaรูปภาพที่ 3 รูปภาพโดย sone4evaรูปภาพที่ 4 รูปภาพโดย sone4evaรูปภาพที่ 5 รูปภาพโดย sone4eva
SONE4EVA • 4 มิ.ย. 63
อ่าน
Google Fiber เปิดตัวอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5 Gbps
Google Fiber ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงที่ใช้สายเคเบิลไฟเบอร์ออปติก และเทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตรไร้สายได้เปิดตัวอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง 5 Gbps Google Fiber จะให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5 Gbps สำหรับลูกค้าในบางเมืองของสหรัฐอเมริกาเช่น Kansas City, West Des Moines และเขตเมือง Salt Lake City สำหรับข้อเสนอของอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5 Gbps มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 125 ดอลลาร์ต่อเดือน และรวมเราเตอร์ WiFi 6 เสริม, ตัวขยายสัญญาณ หรือ Mesh extender 2 ตัว และได้รับการติดตั้งอินเทอร์เน็ตแบบมืออาชีพที่อัปเกรดบ้านให้พร้อมรองรับอินเทอร์เน็ตความเร็ว 10 Gbps ในอนาคต โดยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5 Gbps ของ Google Fiber ให้ความเร็วอัปโหลด และดาวน์โหลดแบบสมมาตรสำหรับผู้ใช้งานหนักในระบบคลาวด์ด้วยไฟล์ขนาดใหญ่ และเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาจากข้อเสนอความเร็ว 1 – 2.5 Gbps ที่ผู้ใช้งานได้รับในปัจจุบัน ทาง Google Fiber ก็ได้ออกมาประกาศว่าพร้อมที่จะให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 5 Gbps ที่จะเปิดตัวในเมืองอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้ และยังพร้อมที่จะมอบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 8 Gbps ในอนาคต ที่มา Google Fiber Blog, The Verge
แบไต๋ • 16 ก.พ. 66
อ่าน
Mission of Libra มุ่งสู่การเป็น Global Currency ในอนาคต
อาจจะช้าไปสักหน่อยที่จะพูดถึง Libra หรือ Stablecoin ที่มี Facbook เป็นผู้ให้กำเนิด แถมมีบิ๊กใหญ่หนุนหลังอีกกว่า 27 แห่ง หลังจากที่ได้นั่งอ่าน White paper ที่ Libra ได้ปล่อยออกมาเพื่ออธิบายถึงเป้าหมายสำคัญของตน จึงได้มีเวลามานั่งพูดถึงว่าที่สกุลเงินกลางของโลกอย่าง Libra กันเสียที อย่างที่ได้จั่วหัวกันไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป้าหมายสำคัญของ Libra คือการเป็น Global Currency หรือก็คือการเป็น "สกุลเงินกลางที่ทั่วโลกใช้" ซึ่งมันแทบไม่ต่างจากสกุลเงินที่เราใช้กันทุกวันนี้ ที่ต่างกันคือ...ในแต่ละประเทศจะมีสกุลเงินเป็นของประเทศตัวเองอยู่แล้ว และประเทศไทยก็มีเงิน THB เป็นของตนเอง ซึ่งเราจะใช้สกุลเงิน THB ในต่างประเทศที่ไม่รองรับสกุลเงินบ้านเราไม่ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่ Libra กลายเป็น Global Currency เราจะสามารถใช้ Libra เพื่อการทำกิจกรรมทางการเงินกับทุกประเทศทั่วโลกได้โดยมีค่าธรรมเนียมที่น้อยมาก เรียกได้ว่าเมื่อ Facebook เปิดตัว Libra ก็เกิดการสั่นสะเทือนวงการกันภายในชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว จะไม่ขอบอกว่าสะเทือนแค่วงการ Technology เพราะ Blockchain นั้นมีมานานแล้ว แต่ล่าสุดมันดันเกิดขึ้นโดยที่มี Facebook เป็นผู้พัฒนาจริงๆหลังจากมีข่าวมานานจนได้นี่สิ ด้วยเหตุผลนี้นี่แหละที่ทำให้ Libra เป็นข่าวดังสะเทือนวงการจนนักพัฒนาหลายคนต้องรีบลุกมาติดตามสถานะของ Libra กันในทันที และด้วยความคาดหวังหลักที่อยากจะให้ Libra เป็นเงินกลางของโลก นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้วงการการเงินโลกต้องสั่นสะเทือนไปพร้อมกัน โดยที่เป้าหมายของ Libra นั้นนอกจากจะอยากเป็น Global Currency แล้วยังมีความต้องการให้ผู้ใช้งานเข้าถึงง่าย ใช้จ่ายคล่องแคล่ว ปลอดภัย ไร้กังวลและเป็นเงินที่มีความเสถียรมากถึงมากที่สุด Libra ได้วางตัวเองให้เป็น Cryptocurrency ที่มีเสถียรภาพสูง หรือในแบบที่หลายคนมักจะเรียกกันอย่างติดปากว่า Stablecoin ทำให้ไม่สามารถเก็บเจ้าเหรียญ Libra นี้มาเล่นได้แบบเดียวกันกับพวก Bitcoin ที่มีการผันผวนสูงได้อย่างแน่นอน โดย Libra จะถูกสนับสนุนด้วยทรัพย์สินจริงของผู้ใช้และจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ Libra Association ที่เป็นองค์กรอิสระเพื่อเป้าหมายในการดูแล Libra โดยเฉพาะ Mark Zuckerberg ได้กล่าวไว้ว่า การโอนเงินหรือจ่ายเงินจะกลายเป็นเรื่องง่ายทันทีเพราะนอกจากจะจับจ่ายใช้สอยกันแบบไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยแล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมในการโอนเงินอีกต่างหาก เพราะค่าธรรมเนียมที่ว่านี้แม้จะยังมีอยู่แต่ก็น้อยจนแทบจะเรียกว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเลยด้วยซ้ำ หลายคนที่ได้ข่าว Libra อาจจะเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่ก็ได้ เพราะ Facebook ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อแห่งวงการข้อมูลโดยเฉพาะ ขอแค่คุณเสิร์ชหาของสักอย่างด้วย Google หรือแม้แต่แค่หาบทความอ่าน ดูหนัง ฟังเพลง ดูรูปแมว หรือใดๆก็ตามแต่ที่ Facebook จะขายของด้วยการโฆษณาได้ หลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็จะเนรมิตรสินค้าขึ้นมาโฆษณาบนหน้า Feed ของคุณทันที ซึ่งประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวในการใช้งาน Mark ได้บอกไว้ว่าข้อมูลการชำระเงินใดก็ตามที่ใช้งานผ่าน Calibra (บริษัทที่ก่อตั้งแยกออกมาจาก Facebook สำหรับการดูแลเรื่อง Calibra Wallet หรือกระเป๋าใส่เหรียญ Libra) จะถูกแยกกับข้อมูลใน Facebook เพื่อความมั่นใจสำหรับผู้ใช้งานทางด้านการเก็บรักษาข้อมูลทางการเงิน ทั้งยังยืนยันว่าจะควบคุม Calibra ในแบบเดียวกันกับที่ผู้ให้บริการทางการเงินรายอื่นทำเช่นกัน Libra Association จุดสำคัญหลักของ Libra ในคราวนี้ก็คือ Libra Association ที่ได้รับความร่วมมือจากองค์กรใหญ่กว่า 27 แห่ง อาทิเช่น Visa, PayPal, MasterCard, eBay ฯลฯ รวมถึงยังมีความคิดที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกภายในองค์กรอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังพยายามดึงเอาเหล่านักพัฒนาและนักธุรกิจอีกหลายรายให้เข้ามามีส่วนร่วมในระบบค่าเงิน Libra อีกด้วย โดยในช่วงแรก Facebook จะถือได้ว่าเป็นตัวหลักในการสร้าง Libra Association และพัฒนาเทคโนโลยี Libra Blockchain ไปจนกว่าจะถึงวันที่ Libra เปิดตัวใช้งานในปี 2020 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงและหลังจากนั้น Facebook จะถอยออกมาเป็นเพียงสมาชิกที่มีบทบาทเท่ากับผู้ก่อตั้งคนอื่นแทน ด้วยเหตุผลหลายอย่างแต่เหตุผลหลักก็คงไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยและความไว้วางใจของผู้ใช้บางกลุ่มที่อาจจะสั่นไหวได้หากได้ยินว่า Facebook ยังคงมีบทบาทหลักต่อ Libra Association Calibra Wallet Calibra Wallet ที่จะกล่าวถึงกันในหัวข้อสุดท้ายนี้ก็คือ Digital Wallet ที่มีไว้สำหรับการจ่ายหรือโอนเหรียญ Libra นั่นเอง โดยที่ Facebook ได้ทำการแยกบริษัท Calibra ออกมาจากบริษัทหลักของตนเอง เพื่อให้ไปดูแลในส่วนของ Calibra Wallet โดยเฉพาะ และแน่นอนว่าเพื่อที่จะได้ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้ารวมไปถึงการใช้กฏระเบียบที่รัดกุมกว่าเดิม เพื่อให้เป็นที่น่าไว้วางใจต่อผู้ใช้งานสำหรับการเปิดตัว Libra อย่างเป็นทางการในปี 2020 ที่จะถึงนี้ นอกจากที่ Facebook คิดจะสร้าง Digital Wallet แยกเป็น Application ส่วนตัวแล้ว ยังได้มีความคิดที่จะทำให้ WhatsApp กับ Messenger เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งาน Digital Wallet และนั่นก็เพื่อความครอบคลุมทางการใช้งานที่สะดวกสบายในยุคดิจิทัล โดยหลังจากนี้คาดว่าอาจจะมี Application อีกหลายตัวที่จะตัดสินใจเข้าร่วมกับ Facebook เพื่อเป็นอีกหนึ่ง Digital Wallet อย่างแน่นอนเพราะกระแสของ Libra ที่กำลังมาแรงในหมู่นักพัฒนาหลังม่านนั้นฉุดไม่อยู่แล้ว Mark Zuckerberg ได้พูดถึงเรื่องความปลอดภัยไว้ว่า Calibra จะต้องให้ทั้งความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้งาน รวมไปถึงให้ความปลอดภัยในทุกขั้นตอนที่ทำกับ Calibra เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกไว้วางใจใน Calibra Wallet รวมถึงหากผู้ใช้ได้เผลอทำเหรียญ Libra หาย พวกเขาก็พร้อมจะทำการคืนเงินให้กับผู้ใช้งานทันที แม้ว่าจะมีคนมากมายใช้งานและชื่นชอบ Facebook แต่นั่นก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่ Facebook เคยถูก Hack ข้อมูลผู้ใช้กว่า 50 ล้านรายมาก่อนและเรื่องอื้อฉาวของ Facbook ที่มีกับ Cambridge Analytica ดังนั้นในการก่อตั้งบริษัทลูกอย่าง Calibra จึงต้องมีการจัดการภายในที่รัดกุม มีผู้เชี่ยวชาญดูแล เพื่อให้เกิดความเสี่ยงที่น้อยที่สุดกับทั้งตัว Calibra และผู้ใช้งานเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูกันในปี 2020 ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง สร้างความมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหน มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่ https://libra.org/ ของ Libra โดยในเว็บไซต์จะมีบอกรายละเอียดกับเกี่ยวกับ Libra ไว้ หากสนใจก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเองได้ และแน่นอนว่าสำหรับนักพัฒนา Blockchain ที่สนใจอยากเล่นอยากลองก่อนใคร ก็สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://developers.libra.org/ เพื่อที่เหล่านักพัฒนาจะได้ไปลองใช้งานกันก่อนเปิดตัวจริง โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางกลุ่ม Libra and Move Developers Thailand ก็ได้มีนักพัฒนาจาก Kulap.io ที่สร้าง Libra Wallet ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในหลายวันมานี้หลังจากได้มีการพูดถึง Libra นักพัฒนาจากหลายประเทศก็ได้มีการเคลื่อนไหวกันไปเป็นจำนวนมาก เพราะงั้นใครที่สนใจก็รีบหาข้อมูลแล้วไปลองทดสอบกันได้ตามลิงค์เว็บไซต์ที่ให้ไว้ด้านบนได้เลย ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก https://libra.org/en-US/ https://developers.libra.org/ https://libra.org/en-US/white-paper/ https://www.facebook.com/zuck/posts/10107693323579671
Dolphin.p • 20 ส.ค. 62
อ่าน
แนะนำ National Pingtung University of Science and Technology (NPUST) ไต้หวัน และที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย National Pingtung University of Science and Technology (NPUST) เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของไต้หวัน แต่มีความทันสมัย ตึก อาคารเรียน ไม่ได้ดูเก่าแก่ตามอายุ 96 ปี เลย ที่นี่มีแคมปัสเดียว พื้นที่กว้างใหญ่ มีสนามหญ้าใหญ่อยู่หน้าตึกอธิการ ซึ่งใช้ในการประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติต่างๆ ผู้เขียนได้มีโอกาสมาร่วมประชุม และเยี่ยมชมแลปวิจัยของเพื่อนนักวิจัยชาวไต้หวันที่ภาคเทคโนโลยีชีวภาพด้วย โดยส่วนมาก นักวิจัยที่เป็นอาจารย์ด้วย แต่ละคนจะมีห้องแลปวิจัยส่วนตัว และซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์วิจัยเองจากทุนวิจัยตนเอง ดังนั้น จะทำแลปครบ จบในที่เดียวที่ห้องวิจัยนั้นๆ เลย ยกเว้นมีการร่วมมือกับท่านอื่น ก็ไปใช้ห้องแลปอื่นได้ มีฟาร์มของมหาวิทยาลัยอยู่เยื้องตึกอธิการ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมสีเขียว ต้นไม้เยอะมาก น่าอยู่มากๆ ลดความเครียดจากการเรียนไปได้เยอะเลย รอบๆ มหาวิทยาลัย มีร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กรายรอบ ราคาไม่แพง ราคาเหมือนกับเมืองไทย แต่อาหารรสไม่จัด อาจไม่ถูกปากใครหลายคน แต่เขาก็มีร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ทั้งในมหาวิทยาลัย และรอบมหาวิทยาลัยด้วย ไม่อดตายแน่ๆ ค่ะ ที่น่าสนใจคือ ไม่มีสถานที่อโคจรเลย อเมซิ่งมากเลยค่ะ ถ้าอยากไปนั่งดริงค์หรือแฮงเอาท์สนุกๆ ก็ต้องเข้าไปในตัวเมือง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพราะในมหาวิทยาลัยและรอบมหาวิทยาลัย คือ ธรรมชาติมาก ไม่มีสิ่งยั่วยุใดๆ ทั้งปวง นิสิตชาวไต้หวันก็จะมีความคล้ายคนไทย คือ ขี้อาย อ่อนน้อม ถ่อมตน เคารพผู้ใหญ่ นิสิตเขาแต่งตัวฟรีสไตล์ แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ดูเรียบง่าย ไม่ค่อยแต่งหน้ากัน เขานิยมปั่นจักรยานไปเรียน ไม่ค่อยเห็นรถมอเตอร์ไซค์เลย แต่จะไม่ค่อยเห็นนิสิตต่างชาติเท่าใดนัก ทะเลสาปจิงซือ (Jing -Si Lake) เรามาดูสถานที่น่าเที่ยวภายในมหาวิทยาลัย เดินไปได้ ใกล้ๆ ประมาณ 20 นาที เป็นทะเลสาปค่อนข้างใหญ่ คำว่าจิงซือ (Jing-Si) ในภาษาจีนมีความหมายว่า สงบ ใจเย็น บรรยากาศดีมาก มีศาลาพักดูวิวด้วย พุทธอุทยาน โฝ กวง ซาน (Fo Guang Shan Buddha Memorial Center, 佛光山佛陀紀念館) อยู่เมืองเกาสง (Kaohsiung) อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 30 นาทีโดยรถยนต์ เป็นวัดทางพุทธศาสนาที่มีขนาดใหญ่ และเป็นวัดพุทธแห่งแรกในไต้หวัน มีพื้นที่ครอบคลุมหลายร้อยไร่ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสูงกว่า 100 เมตร ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางเจดีย์รูปแบบจีนวางเรียงรายกันอยู่ด้านหน้า 8 องค์ (เสมือนมรรคมีองค์ 8) และมีฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม ในวัดมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธเจ้า (Buddha Museum) เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวหรือฟันของพระพุทธเจ้า ประเทศไต้หวัน มีผู้นับถือศาสนาพุทธมากที่สุดคือร้อยละ 43.2 รองลงมาได้แก่ลัทธิเต๋า ร้อยละ 40.6 หรือ จีนแบบเดิมๆ เช่น ไม่ใช้ธูปในการบูชา ไม่เผากระดาษ เป็นต้น หวังว่าคงจะถูกใจ นักท่องเที่ยวสายธรรมะและธรรมชาตินะคะ รูปถ่ายเป็นของผู้เขียนทั้งหมดค่ะ
VinWins • 27 พ.ค. 63
อ่าน
ไฟเบอร์(Fiber) มีประโยชน์อย่างไร
เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ ว่าการกิน ผัก ผลไม้นั้น จะให้ร่างกายเราได้รับ กากใย หรือ ไฟเบอร์ นั่นเอง แต่เจ้าไฟเบอร์ นี่มันคืออะไร และมันประโยชน์อย่างไร วันนี้ผมจึงได้หาข้อมูลแล้วเอามาแบ่งปันเพื่อน ๆ กันครับ การกินผัก และ ผลไม้นั้น ไม่ใช่กินแค่อิ่มแค่อร่อยเท่านั้น แต่การกินผักผลไม้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่แอบแฝงอยู่ เพราะว่าผักเป็นสารอาหารที่มีคุณค่ามีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นเกลือแร่วิตามิน และ สารอาหารอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และ ที่เราจะมาทำความรู้จักกันในวันนี้ก็คือ กากใย(Fiber) นั่นเองครับภาพจาก https://unsplash.com/photos/ocnsb17U6FE กากใย นั้นเป็นส่วนที่เราย่อยไม่ได้ และ ไม่ให้พลังงานด้วย กากใยมี 2 ประเภท ดังนี้ประเภทที่ 1 จะช่วยกวาดล้างลำไส้ให้สะอาด และ ป้องกันมะเร็งลำไส้ ได้แก่พวกก้านผักต่าง ๆประเภทที่ 2 จะช่วยโอบอุ้มคอเลสเตอรอลในลำไส้ออกมากับอุจจาระ พวกนี้มีใน ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ได้แก่ แอปเปิ้ล สตอเบอรี่ ฝรั่ง พุทรา สาลี่ เป็นต้น เมื่อเราทำความรู้จักกับกากใยไปแล้ว คราวนี้เรามาดูประโยชน์ของกากใยกันบ้างครับ1. ช่วยลดความอ้วน เพราะว่า กากใย มันไม่ได้ให้พลังงานแต่ว่ามันจะเข้าไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ในกระเพาะของเรา ทำให้เรากินผลไม้เข้าไปมาก ๆ ถึงแม้เราจะได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต และ น้ำตาลฟรุกโตส แต่กากใยก็ยังเข้าไปแย่งพื้นที่ในกระเพาะอาหารของเราอยู่ดีทำให้เราจะรู้สึกอิ่มง่าย เราจึงไม่รู้สึกอยากอาหารเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้น้ำหนักลดลงนั่นเองครับผมภาพจาก https://unsplash.com/photos/QZub8Ni3x_c 2. ช่วยลดอัตราการดูดซึมของน้ำตาล และ สามารถลดการใช้ปริมาณ ฮอร์โมน อินซูลินในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ร่างกาย จึงไม่ต้องผลิตฮอร์โมน อินซูลิน มาก ทำให้คนที่กินผักผลไม้มาก ๆ จะช่วยลดโอกาสการเป็นเบาหวานได้นั่นเอง 3. ช่วยลดการดูดซึมไขมัน และ คอเลสเตอรอล อย่างที่บอกไปว่าไฟเบอร์นั้นมี 2 ประเภท ประเภทที่ 2 นี่แหละที่จะช่วยโอบอุ้มเจ้าคอเลสเตอรอล ในลำไส้ และ ปล่อยออกมาทางอุจจาระ ทำให้ร่างกายลดระดับไขมัน และ คอเลสเตอรอลได้นั่นเองครับภาพจาก https://unsplash.com/photos/kyvuAx-kEDI 4. กระตุ้นลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ท้องไม่ผูกง่าย ๆ ช่วยลดการกักเก็บของเสียในร่างกาย ลดการสะสมของของเสียในลำไส้ ลดโอกาสการดูดซับสารพิษจากของเสียเข้าสู่ร่างกาย และ ยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้อีกด้วย 5. ช่วยป้องกัน และ ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็ง 6. ลดอัตราความเสี่ยงจากไขมันอุดตันหลอดเลือด และ ช่วยลดความดันโลหิตภาพจาก https://unsplash.com/photos/HjxgkynaP_Y 7. มีผลสำรวจพบว่าคนที่ชอบกินอาหารจำพวกผักผลไม้ หรือ เมล็ดธัญพืชมาก ๆ มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพที่ดีกว่าคนที่ชอบคนที่พวกที่ชอบกินเนื้อสัตว์ แต่อย่างไรก็ตามการกินผลไม้และผักควรกินให้พอดีไม่มากเกินไปจนหรือน้อยเกินไป มิเช่นนั้นอาจจะเกิดโทษร้ายต่อร่างกายก็เป็นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อรู้ว่าผักผลไม้เป็นอาหารที่ดี และ มีประโยชน์ ก็ไม่ควรจะกินแต่ผักผลไม้อย่างเดียวทุกมื้ออาหารนะครับ ยังไงซะ คนเราก็ควรจะกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกายของเราครับ^^
โทนี่ที่ชอบปลา • 10 ม.ค. 63
อ่าน
Libra 2.0 จะได้ไปต่อ หรือ พอแค่นี้??
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Libra สกุลเงินที่ใคร ๆ ก็ว่าจะมาเปลี่ยนโลกกัน โดยได้มีการออกเอกสาร White Paper 2.0 เพื่อเป็นการ Update วิธีการและรูปแบบต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจาก 1.0 ที่เรียกเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อเดือน มิถุนายน ปีที่แล้ว ถ้าถามว่ามีอะไรที่น่าสนใจและมีอะไรที่เปลี่ยนไป ผมรวมมาให้อ่านกันในบทความเดียว ใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่อง Libra อ่านได้ ใครเคยอ่านแล้ว ยิ่งอ่านดี เอ้า เริ่ม!! ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันสักหน่อยว่า Libra คืออะไร สำหรับคนที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้เลย แต่ถ้าใครรู้อยู่แล้ว ข้ามไปที่ย่อหน้าถัดไปได้เลย Libra คือสกุลเงิน ดิจิทัล รูปแบบหนึ่งที่อาศัยระบบการจัดการที่เรียกว่า Blockchain มาใช้ (แนะนำว่าให้อ่านตัวซีรีส์ของผม ได้อธิบายไว้เรียบร้อยแล้วในตอนที่ 4) ความใฝ่ฝันของ Libra นั้นคือการสร้าง "อิสระทางการเงิน" คือการที่ใครต่อใครสามารถเข้าถึงเงินได้หมด(เนื่องจากว่าประชากรส่วนใหญ่บนโลกไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารแต่เข้าถึง Internet มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเลยมองว่า อยากที่จะทำให้คนเข้าถึงได้งาย ๆ แค่ใช้ผ่าน internet)ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน ขอเพียงแค่มี Internet และสามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว แต่เมื่อปีที่แล้ว พอออก ข้อกำหนด การใช้งาน เอกสารชี้แจงต่าง ๆ ออกมา ปรากฎว่า โดนด่าเพียบ!! มีแต่คนจองกฐิน รุมยำ ซะจนพี่ มาร์ค มึนไปเลยทีเดียว เหตุผลหลัก ๆ นั่นเพราะสิ่งที่เสนอมานั้นมัน ไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง!! ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเรื่องเงินและตรวจสอบควบคุมไม่ได้มันจะเละเทะแค่ไหนกัน?? นั่นแหละครับเป็นประเด็นที่ทำให้ เจ้าภาพร่วม 27 บริษัท ถอนตัวออกไป จนเหลือ 22 บริษัท และมีมาเพิ่มใหม่อีก 1 จนตอนนี้มีทั้งหมด 23 บริษัท แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ครับ ได้ทำ คอมเม้นต์ ต่าง ๆ ที่โดนมาในรอบที่แล้ว ไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ จนในที่สุดก็คลอด White Paper 2.0 ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน Libra รอบนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง?? การเปลี่ยนแปลง หลัก ๆ แบ่งเป็น 4 หัวข้อครับ นั่นก็คือ 1. รูปแบบของ libra coin ที่เปลี่ยนไป 2. กำหนดกลุ่มผู้ให้บริการ Libra อย่างชัดเจน 3. เปลี่ยนข้อกำหนดใหม่สำหรับการเข้ามาเป็นสมาชิก 4. มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Libra Reserve แต่ละข้อคืออะไรบ้าง?? บอกเลยว่ารายละเอียดที่สำคัญทั้งหมด อยู่ใน 4 ข้อใหญ่ที่แหละครับ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น มาเจาะกันเป็นข้อ ๆ เลย ดังนี้ครับ 1. รูปแบบของ Libra coin ที่เปลี่ยนไป แต่เดิม Libra นั้น มีแค่ รูปแบบเดียว ที่อิงค่าเงินจาก สกุลหลัก 5 สกุลเงิน แต่ใน 2.0 นั้นเปลี่ยนไป มี 2 รูปแบบ คือ 1.1 แบบ single-currency stablecoins คือ Libra+ชื่อสกุลเงิน ในครั้งนี้ Libra มองตัวเองเป็น Platform ให้แบงค์ชาติของแต่ละประเทศนั้นมาใช้ Platform ของตัวเอง และสามารถสร้างเงินดิจิทัลของตัวเองได้ในทันที โดยใช้อัตราส่วน 1:1 Ratio เช่น แบงค์ชาติอเมริกาอยากได้ LibraUSD แต่ตัวเองไม่มีระบบที่จะสร้าง ก็มาที่ Libra ขอใช้ Platform จ่ายเงินให้ Libra 1,000,000 USD Libra ก็จะออก LibraUSD มาให้ 1,000,000 coin เอาไว้ใช้ในระบบต่าง ๆ ภายในประเทศ ในแรกเริ่มนั้น มีตั้งต้นมาทั้งหมด 4 สกุลเงินได้แก่ USD, GBP, EUR และ SGD แต่เอกสารลงไว้ว่าสามารถเปิดรับสกุลอื่น ๆ ได้อย่างไม่จำกัด นั่นก็หมายความว่า ถ้าประเทศไหนอยากมี Libra ใช้ในประเทศที่เป็นสกุลเงินของตัวเอง ก็สามารถมาใช้ Platform ของ Libra ในการผลิตเหรียญได้เลย ซึ่งข้อดี ที่เขาการันตีไว้นั่นก็คือ สะดวก, รวดเร็ว, ปลอดภัย, และความหน่วงต่ำ เรียกว่าเรียกแขกกันสุด ๆ 1.2 แบบ Global Libra คือ สกุล Libra หลักที่ไม่มีอะไรต่อท้าย และใช้กันในระดับโลก คือแบบแรกจะใช้ได้แค่ภายในประเทศของตัวเองเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ใช้นอกประเทศ ถ้าจะ Transfer กัน จะต้องใช้แบบหลังนี้ ซึ่ง Libra หลักนี่ก็จะมีมูลค่าเป็นค่าเฉลี่ยของสกุลเงิน 4 สกุล ได้แก่ USD, GBP, EUR และ SGD นั่นเอง สรุป ก่อนไปข้อ 2 แบบแรกนั้นจะเป็นเหรียญที่ใช้ภายในประเทศเท่านั้น ไม่สามารถใช้ข้ามประเทศได้ และมีอัตราการแลกเปลี่ยนจากเงิน ปกติเป็น เหรียญดิจิทัลแบบ 1 ต่อ 1 แต่ถ้าเกิดอยากซื้อของต่างประเทศ โอนเงินไปต่างประเทศ ก็จะใช้ แบบที่ 2 คือ Libraglobal ที่เรียกได้ว่าเป็นเสมือนค่าเงินกลางของโลกยุคใหม่ ในอนาคตปลายทางการรับโอนอาจจะถามเราว่าจะจ่ายเป็น Libra coin รึเปล่า ซึ่งจ่ายกี่เหรียญ ก็แค่เอาเงินที่มีไปแลกเอา 2. กำหนดกลุ่มผู้ให้บริการ Libra อย่างชัดเจน เมื่อมีเหรียญ Libra ใช้กันแล้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ต้องมีการกำหนด คนที่สามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน โดยมีการแบ่งกลุ่มเหล่านี้ เป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้ 2.1 Designated Dealers หรือจะเรียกว่าตัวแทนจำหน่ายก็ได้ จะเป็น หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอิสระ ก็แล้วแต่ สามารถเข้าไป ทำข้อตกลงกับ Libra เพื่อที่จะขอนำ Platfrom Libra มาใช้เพื่อออกสกุลเงินของตัวเอง ถ้ามองระดับประเทศ ก็คงจะเป็น แบงค์ชาติ หรือตัวแทนของประเทศที่จะมาขอใช้ Platform นั่นเอง 2.2 Virtual Asset Service Providers (VASP) หรือพูดง่าย ๆ ก็คือตัวแทนสำหรับ Exchange Libra coin อย่างถูกกฎหมายนั่นเอง ถ้ามองภาพ ในปัจจุบัน ก็คงจะประมาณ Super rich ในบ้านเรานี่แหละที่เป็นประเภทนี้ แต่ตรงนี้มีข้อกำหนดว่า จะต้องได้ใบอนุญาติ Financial Action Task Force (FATF) ที่สหรัฐอเมริกาก่อน เพื่อจะได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ใบอนุญาต (Regulated VASPs) ถึงจะให้บริการได้ 2.3 VASP ที่ไม่มีใบอนุญาติแบบข้อ 2 ข้อนี้ง่าย ๆ ครับ คือ ผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ที่ไม่มีใบอนุญาติแบบข้อ 2 สามารถที่จะไปขอใบอนุญาติได้โดยตรงกับทาง Libra ซึ่ง Libra จะเป็นคนตรวจสอบเองทั้งหมด Approve เองทั้งหมด ถ้าผ่านก็สามารถที่จะประกอบการได้ 2.2 และ 2.3 พูดง่าย ๆ ว่า คือตัวแทนในการแลกเปลี่ยน Libra coin นั่นเอง เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่า มันจะมี 2 แบบ แบบแรกที่ใช้ในประเทศกับแบบที่ 2 ที่ใช้นอกประเทศ ไม่ว่าแบบไหนถ้าคนต้องการก็ต้องผ่านตัวแทนที่ว่าก่อนนี่แหละ 2.4 อื่นๆ ง่าย ๆ อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือ นิติบุคคล ที่ไม่เข้าข่าย 3 ข้อด้านบน และอยากที่จะให้บริการแลกเปลี่ยนจะตกที่ข้อนี้ทั้งหมด ซึ่งถ้ามองภาพให้ชัดไปอีก ก็น่าจะเป็น พวก ตัวกลางต่าง ๆ เช่น Line, grab, shopee พวกนี้แหละครับ ที่อยากจะให้เงิน Libra เข้ามาใช้เป็นตัวเลือกหนึ่งในการใช้งานด้วยเช่นกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ใน White paper ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ว่าจะออกมาถูกหรือแพงเพียงไหน ทำได้แต่เพียงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร 3. เปลี่ยนข้อกำหนดใหม่สำหรับการเข้ามาเป็น สมาชิก สำหรับใครที่ยังไม่รู้ ว่าการเป็นสมาชิกใน Libra ตอน 1.0 นั้นโหดหินแค่ไหน ผมจะบอกให้ฟัง - มีมูลค่าบริษัทเกินพันล้านดอลลาร์ - ผู้ใช้เกิน 20 ล้านคน - เป็นแบรนด์ระดับ 100 แบรนด์แรกของโลกในการจัดอันดับรายใหญ่ คุณต้องมีคุณสมบัติ 2 ใน 3 ข้อนี้จึงจะสามารถเข้ามาเป็นได้ แต่นี่คือ 2.0 และทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจาก คุณสมบัติ ด้านบนตอนนี้ได้หายไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะในตอนแรก เขาบอกว่าไม่มีการตรวจสอบคนที่เข้ามาเป็นสมาชิก ขอแค่มีคุณสมบัติ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายกังวล ว่าถ้ามีคนไม่ดีเข้ามาเป็นสมาชิกและคดโกงจะทำยังไง ใน 2.0 นี้จึงแก้ข้อนี้ให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นก่อนที่จะได้เข้ามาเป็นสมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คร่าว ๆ ก็คือ ต้องมีระบบรองรับที่ดีมากพอ ต้องจ่ายเงินช่วยสนับสนุน และถูกตรวจหลังบ้านด้วยอีกมากมาย 4. มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Libra Reserve ต้องบอกแบบนี้ก่อนครับ โดยปกติแล้ว เวลาเราเอาเงินไปฝากธนาคาร ธนาคารไม่ได้เก็บเงินเราไว้เต็ม 100% แต่จะนำเงินส่วนหนึ่งไปปล่อยกู้หรือลงทุนต่อไป และสำรองไว้ 10% กันเวลาเรามาถอนออก เลยมีคำพูดที่บอกว่าถ้าเกิดทุกคนแห่ไปแบงค์และถอนเงินออกหมดรับรองแบงค์ได้ล้มละลายแน่นอน Libra เองก็เช่นกัน เขาบอกว่ามีการสำรองเงิน แบบ 1 ต่อ 1 สำหรับการผลิตเหรียญ ถ้ามองง่าย ๆ มันก็ไม่ต่างกับธนาคารจริงไหมครับ แต่เพื่อความมั่นคงที่ต้องมีมากกว่า ธนาคาร Libra เลยบอกว่า จะสำรองเป็นเงินสดไว้ถึง 20% ส่วนที่เหลือ จะนำไปลงทุนในตราสารรัฐบาลระยะสั้น ไม่เกิน 3 เดือน เพื่อกินกำไรส่วนต่างเพียงเล็กน้อย และสามารถซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่มีคนมาถอนเงินที่ขอสร้างเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุน Capital buffer ขึ้นมาสำหรับในกรณีที่ต้องนำเงินสำรองเวลาฉุกเฉินมาใช้ จริง ๆ ซึ่งเงินตรงนี้ก็ไม่ได้บอกว่า นำมาจากไหน (แต่ถ้าจะให้เดา ก็น่าจะเป็นจากสมาชิกนี่แหละ ที่ต้องลงขันกัน) จบไปแล้วกับ 4 ข้อสำคัญของ Libra 2.0 ที่มีทั้งการปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนไปสิ้นเชิงเลยก็มี ถ้ามองให้ดี ตอนนี้ Libra จะกลายเป็นเสมือน Paypal รูปแบบ ใหม่ที่ใช้ Blockchain ไปซะแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์แรกเริ่ม ที่อยากให้ใช้อย่างอิสระมากกว่านี้ แต่แน่นอนว่า เรื่องของการเงิน ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่สามารถควบคุมได้ ไม่เช่นนั้น จะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเต็มไปหมด สุดท้ายก็เลยต้องปรับข้อตกลงการใช้งานต่าง ๆ ให้มาอยู่ในกฎในเกณฑ์ มากขึ้น สรุปว่าไปต่อแน่นอน สำหรับ Libra และความตั้งใจของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วจะผ่านหรือไม่ผ่าน สภาครองเกส ของสหรัฐนั้น ก็ต้องมานั่งลุ้นกัน ที่น่าสนใจก็คือ จีนได้ประกาศไปแล้วว่าจะทดลองใช้ Digital Yuan ที่ใช้ระบบ Blockchain เหมือนกัน งานนี้ สหรัฐจะยอมนิ่งดูดายปล่อยให้จีนเปิดตัวใช้ไปชิว ๆ หรือว่าจะรีบ แก้เกมกลับ ดึง Libra มาชูโรง และออกไปท้าชนกับ Digital Yuan กันแน่ ในความคิดเห็นของผู้เขียน นี่คือสงครามที่ชิงอำนาจผู้นำทางการเงิน ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่งถ้าถามถึงความพร้อมในตอนนี้ จีนเป็นฝ่ายที่พร้อมมากกว่า ผิดกับทางสหัรัฐที่ยังเจอปัญหาต่าง ๆ มากมาย และยังไม่พ้นจากวิกฤตไวรัส Covid-19 งานนี้ เราอาจจะได้เห็น Digital Yuan ออกมาใช้ก่อนก็เป็นได้ แต่คิดว่าไม่นานจนเกินรอ สภาน่าจะปล่อยให้ Libra ผ่านเพื่อจะมาคานอำนาจซึ่งกันและกัน และโลกของการเงินยุคใหม่จะถือกำเนิดขึ้น นั่นคือโลกของ Digital Currency เงินกระดาษจะหายไปเหลือใช้เพียง 10-20% และจะค่อย ๆ ทยอยหายไป เฉกเช่นเดียวกับ เงินพดด้วงในอดีต สำหรับในประเทศไทย เราคงอาจจะต้องรอกันไปอีกสักหน่อย เพราะตอนนี้ ทางไทยเองก็มีการพัฒนา อินทนนท์ coin เอาไว้สำหรับใช้งานในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การที่ไปใช้ระบบของ Libra นั้นอาจจะยังไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ แต่ถ้าในระดับการ Transfer money ข้ามโลก ถ้าเรามีพันธมิตรที่ใช้ระบบเดียวกันที่ดีพอ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่ง Libra เช่นกัน รอดูอนาคตของโลกการเงินที่กำลังจะเปลี่ยนไปพร้อม ๆ กันครับ และถ้าถามว่า Digital Currency นี่มันสำคัญยังไง ตอนนี้หลาย ๆ คนคงจะไม่เข้าใจ และมองว่ามันน่าจะไกลตัว แต่สำหรับผม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นี่แหละ คือสิ่งที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกแห่งการเงินอย่างแท้จริง ซึ่งดูจากเวลาแล้ว ก็คงอีกไม่นานเกินรอ Ref 1. https://libra.org/en-US/white-paper/#the-economic-and-the-libra-reserve 2. ผมฟังคุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา พูดใน Live แล้วมาใส่ภาษาแบบอ่านง่ายเข้าใจกันทุกคน Cr.Pic หน้าปก Freepic ภาพประกอบ Pixabaypic1/Pic 2 Libra.org/Pic 3 freepix/Pic4 BoT/Pic 5 Libra.org/Pic6 freepix
ฉุดคิด • 11 พ.ค. 63
อ่าน
4 นักแสดงหนุ่มหล่องานดี จากซีรีส์ Police University มารู้จัก&เปิดวาร์ปไอจี
เปิดตัวสองตอนแรกมาแบบเหนือเมฆ กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกใจติ่งสายเกาจนลงแดงรอตอนต่อไปไม่ไหว สำหรับซีรีส์ Police University ที่นอกจากพล็อตและการดำเนินเรื่องจะสนุกเกินคาดจนเรตติ้งรุ่งพุ่งแรงแล้ว ความดีงามอีกหนึ่งอย่างที่เรื่องนี้คัดสรรมาให้เราได้ฟินจิกเบาะกันถ้วนหน้านั่นคือ 4 นักแสดงชายหนุ่มหล่องานดี ที่ครั้งนี้จะพาไปเปิดประวัติกันพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่ลืมที่จะแจกวาร์ปไอจีที่ทุกคนกำลังตามหา จะมีใครกันบ้างตามไปดูกันได้เลยhttps://youtu.be/MkB5h1u-W1UYoutube: Viu thailandจินยอง B1A4 รับบทเป็น คังซอนโฮInstagram: @jinyoung0423ขอจั่วหัวกล่าวถึงพระเอกของเรื่องอย่าง คังซอนโฮ เด็กหนุ่มกำพร้าผู้มีฝีมือในการใช้คอมพิวเตอร์และแฮ็กระบบอย่างชำนาญ ใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยไม่รู้จักความฝัน แต่ดันตกหลุมรักสาวแล้วตามเข้าไปเรียนในวิทยาลัยตำรวจ โดยผู้ที่มารับบทบาทสุดท้าทายในครั้งนี้คือ จินยอง ไอดอลจากวง B1A4 นั่นเองจินยอง (ที่ไม่ใช่จินยอง GOT7) มีชื่อจริงว่า จองจินยอง (Jung Jin-young) เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 1991 ประวัติของหนุ่มคนนี้น่าสนใจมาก เขามีความฝันที่อยากทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก จึงใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์เดินทางจากบ้านเกิดในจังหวัดชุงซองเหนือ ไปยังกรุงโซลเพื่อออดิชั่นและแคสติ้งโฆษณา จนกระทั่งมีคนไปเจอรูปของจินยองบนเว็บไซต์ แล้วนำตัวเขามาเข้าคลาสการแสดง ร้องเพลง เต้น และแต่งเพลง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนุ่มคนนี้ก้าวเข้าสู่เส้นทางบันเทิงอย่างเต็มตัวhttps://youtu.be/aYru067971MYoutube: 1theKจินยองเริ่มเดบิวต์เป็นไอดอลวง B1A4 ในปี 2011 ความเก๋คือการตั้งชื่อวงตามกรุ๊ปเลือดของสมาชิก นั่นหมายความว่ามีคนเลือดกรุ๊ป B 1 คน และอีก 4 คนเลือดกรุ๊ป A นั่นเอง โดยจินยองเป็นทั้งลีดเดอร์ของวง แถมยังมีฝีมือในการแต่งเพลง ความอัจฉริยะของเขาทำให้นักวิจารณ์เพลงต่างชื่นชมในทักษะ จนมีโอกาสได้แต่งเพลงให้กับวงเกิร์ลกรุ๊ปในรายการ Produce 101 อีกด้วย พูดมาขนาดนี้ถ้าไม่เชื่อว่าหนุ่มคนนี้ฝีไม้ลายมือเด็ดขาดขนาดไหน เราได้ยกตัวอย่างเพลง Rollin' ที่จินยองเขียนเองกับมือมาฝากกันพอเป็นน้ำจิ้ม บอกตามตรงว่าแปลไม่ออกแต่ทำนองมันติดหูจนต้องฟังวนไปอีกหลายรอบเลยทีเดียวหลังจากสิ้นสุดสัญญากับต้นสังกัดเดิม จินยองหันมาโฟกัสในการทำงานด้านการแสดงมากขึ้น ชิมลางด้วยการกระโดดไปเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ Miss Granny (2014) ตามมาด้วยบทบาทสมทบในซีรีส์อีกหลายเรื่องอาทิ Perserve, Goo Hae-Ra (2015) Warm and Cozy (2015) แต่ที่ทำให้หลายคนคุ้นหน้าหนุ่มคนนี้คงจะเป็นบทบาท คิมยุนซอง พระรองจากซีรีส์ Love in the Moonlight (2016) ที่พัคโบกอมเป็นพระเอกนั่นเอง ใครที่อยากเก็บผลงานย้อนหลังสามารถรับชมทาง Netflix ได้เลยhttps://www.instagram.com/p/CSWgQ1WlG9P/?utm_medium=copy_linkสำหรับซีรีส์ Police University เป็นการรับบทนำอีกครั้งหลังจากซีรีส์เรื่อง My First First Love (2019) ทาง Netflix เชื่อว่าหลายคนคงหลงรักตัวละครคังซอนโฮตั้งแต่เริ่มเรื่องมาเลย ทั้งบุคลิกที่ดูสุขุม บางทีก็ดูน่ารักและน่าเห็นใจ เสน่ห์ของจินยองคือดวงตาที่เมื่อเขาได้ถ่ายทอดบทชายหนุ่มน่าสงสารแล้วคนดูอินตาม จนอยากจะให้กำลังใจตัวละครตัวนี้ให้รอดพ้นจากอุปสรรคต่าง ๆ ที่เขาพบเจอในวิทยาลัยตำรวจ เชื่อแน่ว่านี่จะเป็นผลงานที่ทำให้จินยองมีคนรู้จักมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เตรียมจุดพลุฉลองได้เลยชเวอูซอง รับบทเป็น ยุนซึงบอมInstagram: @c.woo.sungเด็กหนุ่มที่เป็นมากกว่าเพื่อนซี้ของคังซอนโฮ พี่น้องผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในฐานะครอบครัว อารมณ์ร้อน ขี้น้อยใจ ช่างเป็นบทบาทที่เข้ากันดี๊ดีกับ ชเวอูซอง หรือไอ้ต้าวหมีใหญ่ที่หลายคนกำลังคลั่งรักกันอยู่ ณ ขณะนี้ชเวอูซอง เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 1997 ศึกษาด้านภาพยนตร์และละครที่ Dongguk University ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด AM Entertainment ซึ่งใครที่เป็นติ่งมาสักพักคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาหนุ่มคนนี้เป็นอย่างดี เพราะโผล่ไปเล่นบทบาทสมทบในซีรีส์มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ที่แจ้งเกิดจนทำให้มีแฟนคลับติดตามมากขึ้น น่าจะเป็นเมื่อครั้งที่หนุ่มคนนี้รับบทเป็นผู้ช่วยพยาบาลและลูกชายผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์ จากซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay (2020) แม้จะโผล่มาไม่กี่ฉาก แต่ความน่ารักกวน ๆ ก็ทำให้หลายคนหลงรักกันมากทีเดียวhttps://www.instagram.com/p/CPnjG_ArF7Q/?utm_medium=copy_linkและอีกครั้งในปีนี้กับซีรีส์ My Roommate is a Gumiho (2021) ที่เพิ่งจบไปไม่นาน ชเวอูซองรับบทเป็น อีดัน น้องชายของอีดัมผู้เป็นนางเอก ก็ยังคงได้รับบทเป็นเด็กหนุ่มซุกซนเข้ากับบุคลิกตัวจริงของเขา อีกทั้งในเรื่องยังเป็นนักธนู สอดคล้องกับงานอดิเรกในชีวิตประจำวันที่หนุ่มขี้เล่นคนนี้ถนัดกีฬาหลายประเภทอีกด้วย สูงยาวเข่าดีขนาดนี้ใครอยากเมากล้ามหน้าท้องหนุ่มชเวอูซองก็ลองไปแอบส่องดูในฉากแรกของซีรีส์ Police University ได้เลยนะจ๊ะ กระแทกตาจริง ๆ ขอบอกยูยองแจ รับบทเป็น โจจุนอุคInstagram: @yjaybabyโจจุนอุค อีกหนึ่งตัวละครในก๊วนเฟรชชี่วิทยาลัยตำรวจ ที่โผล่มาทีไรก็ขโมยซีนเรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้อย่างเกรียวกราว คาแรกเตอร์เด็กหนุ่มอารมณ์ดีนี้ได้ ยูยองแจ อดีตไอดอลและนักแสดงหน้าใหม่มาถ่ายทอดให้เราได้ขำปอดโยกกันอีกครั้งhttps://youtu.be/PxA1XwjJ7f8Youtube: 1theKยูยองแจ เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม ปี 1992 อดีตเคยเป็นนักร้องนำวง B.A.P ก่อนจะยุบไปในปี 2019 อย่างไรก็ตามหนุ่มคนนี้มีความฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนมัธยมปลายได้เริ่มเรียนร้องเพลงและมีโอกาสได้เป็นเด็กฝึกของค่าย JYP ถึง 10 เดือน ทำให้เขาได้สะสมประสบการณ์ทางด้านดนตรีมาจนถึงปัจจุบันแม้วง B.A.P จะสิ้นสุดลง แต่เส้นทางการเป็นนักร้องของยูยองแจยังคงดำเนินต่อไป เขามีโอกาสได้ทำมินิอัลบั้มของตัวเองและออกผลงานเพลงมาให้เราได้ฟังกันอยู่เรื่อย ๆ อาทิเพลง Forever Love และ O,On ดนตรีเร้งเร้าและเสียงเท่ ๆ ของยูยองแจมันช่างเข้ากันซะเหลือเกินhttps://www.instagram.com/p/CMPcTqgAacs/?utm_medium=copy_link นอกจากผลงานเพลงแล้ว ยูยองแจยังมีผลงานทางการแสดงหลายเรื่องด้วยกัน แต่ที่ทำให้จำได้ติดตาต้องเป็นบทบาท คิมฮวาน จากซีรีส์พีเรียดแฟนตาซีสุดฮาอย่าง Mr.Queen (2020) จำกันได้ใช่ไหมว่าคิมฮวานโผล่มาทีไรเป็นต้องได้อมยิ้มกับการขโมยซีนของตัวละครตัวนี้ทุกครั้ง ต้องบอกว่ายูยองแจเหมาะกับบทแบบนี้จริง ๆ อย่างไรก็ตามการเป็นหนุ่มมากฝีมือขนาดนี้ เชื่อว่าอนาคตในวงการบันเทิงของเขาต้องสดใสอย่างแน่นอนชูยองอู รับบทเป็น พัคมินกยูInstagram: @cu.youngในกลุ่มเพื่อนต้องมีสักคนที่เป็นอัจฉริยะ นักเรียนหน้าห้องผู้ตั้งใจเรียน เช่นเดียวกับตัวละคร พัคมินกยู ผู้ซึ่งเปรียบเป็นแหล่งข้อมูลของวิทยาลัยตำรวจ เก่ง ฉลาด หน้าตาดี บทบาทนี้ลงตัวกับ ชูยองอู นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเดบิวต์ไปได้ไม่นานชูยองอู เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ปี 1999 นักศึกษาการแสดงจาก Korea National University of Arts ปัจจุบันเป็นศิลปินภายใต้สังกัด J.Wide Company ถึงแม้จะเข้าวงการมาไม่นาน แต่ด้วยหน้าตาและรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของหนุ่มคนนี้ แถมฝีมือการแสดงก็มีดีพอที่จะทำให้ไปได้ไกลแน่นอนhttps://www.instagram.com/p/CP771UVMmCL/?utm_medium=copy_linkชูยองอูเดบิวต์เป็นนักแสดงครั้งแรกในซีรีส์วายของเกาหลีอย่างเรื่อง You Make Me Dance (2021) ในบทบาท ซงชีอน หนุ่มมหาลัยผู้รักการเต้นที่ดันไปหลงรักกับเจ้าหน้าที่ทวงหนี้แสนสุภาพ จนเกิดเป็นความรักใส ๆ ตามมานั่นเอง สามารถรับชมเรื่องนี้ได้ทาง Viu ถือว่าหนุ่มคนนี้เริ่มต้นในฐานะนักแสดงก็ได้บทที่ท้าทายพอตัว และเร็ว ๆ นี้ยังมีโอกาสร่วมแสดงในซีรีส์ School 2021 ให้เราได้รับชมกันต่ออีกด้วย น่ารักขนาดนี้ส่งกำลังใจกันให้เยอะ ๆ และอย่าลืมไปติดตามอินสตาแกรมของหนุ่มคนนี้กันด้วยล่ะhttps://youtu.be/1d2fXmNCyj8Youtube: Viu Thailandรู้จักทั้ง 4 หนุ่มกันไปแล้ว อย่าลืมติดตามซีรีส์ Police University ไปดูกันว่าคังซอนโฮและแก๊งเฟรชชี่นักเรียนตำรวจจะเจอเรื่องราวสาหัสสากรรจ์อะไรต่อไป และความรักของคังซอนโฮกับรักแรกของเขาจะเกิดขึ้นหรือไม่ ไปลุ้นกันทุกเช้าวันอังคารและวันพุธ ทาง Viu เท่านั้น แม้ชื่อเรื่องจะดูเหมือนหนัก แต่มู้ดแอนด์โทนออกไปทางน่ารัก โรแมนติกคอมเมดี้ดูแล้วเบาสมอง ลองดูสักนิดแล้วจะต้องเก็บเข้าลิสต์แบบด่วน ๆ คอนเฟิร์ม!!รูปภาพประกอบบทความจาก Official Twitter: KBS Drama | Never: AM Entertainment / JWide Companyรูปภาพหน้าปก 1 | รูปภาพหน้าปก 2 | รูปภาพหน้าปก 3 | ภาพประกอบที่ 4ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8บทความแนะนำจากผู้เขียน- 10 เรื่องน่ารักของ คิมยองแด (Kim Young-dae) หนุ่มหล่อสุดกร้าวใจจากซีรีส์ The Penthouse 3- รู้จักเปิดวาร์ปไอจี 4 หนุ่มหล่องานดี จากซีรีส์ Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้- รู้จัก 3 นักแสดงดาวรุ่งจากซีรีส์ สาวน้อยแม่มด :The Great Shaman Ga Doo Shim (2021) พร้อมเปิดวาร์ปไอจีจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
CoPLUS • 18 ส.ค. 64
อ่าน
ซีรีส์เกาหลี Police University ดูได้ที่ TrueID+
เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี Police University ชื่อเรื่อง: Police University (경찰수업) ประเภท: ตลก / ดราม่า / โรแมนติก กำกับโดย: ยูกวันโม เขียนบทโดย: มินจอง จำนวน: 16 ตอน สถานีโทรทัศน์: KBS2 ออกอากาศ: ทุกวันจันทร์-อังคาร ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม - 5 ตุลาคม 2021 ช่องทางรับชมอย่างถูกลิขสิทธิ์ในประเทศไทย: VIU / KBS World HD (ทรูวิชั่นส์ช่อง 232) ออกอากาศก่อนหน้าเรื่องนี้: At a Distance, Spring is Green | ออกอากาศต่อจากเรื่องนี้: The King's Affection
เรื่องย่อละคร • 1 มี.ค. 65
อ่าน
True Gigatex Fiber มาพร้อมเน็ตเต็มสปีด 1 Gbps.
สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้คือ อินเตอร์เน็ต จากอดีตจนถึงปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตบ้านมีการพัฒนาทั้งเทคโนโลยี Fibreและความเร็วเน็ตที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทรูเป็นผู้นำทางด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ได้ออกโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สนใจติดเน็ตบ้าน True Gigatex Fibre มาพร้อมเน็ตเต็มสปีด 1 Gbps. ราคาเริ่มต้นเพียง 799 บาท มาดูรายละเอียดกันว่าโปรโมชั่นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างค่ะTrue Gigatex Fibre อินเตอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง 1 Gbps. สมัครวันนี้ได้รับส่วนลด 200 บาท เหลือเพียง 799 บาท (จาก ราคา 999 บาท)* ส่วนลดตลอดอายุการใช้งาน 24 เดือน* ทั้งยังได้ดู True ID TV Unlimited ฟรี 12 เดือน มีหนังระดับภาพ 4K , ซีรี่ส์ , ฟุตบอล คอนเทนต์ระดับโลกให้ดูมากมาย เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เน็ตทรูมือถือเพิ่มอีก 10 GB คุ้มมากค่ะความพิเศษของตัว Router ทำสปีดได้สูงสุด 1 Gbps. ผ่านสายแลน และกระจายสัญญาณ Wifi สูงสุด 800 Mbps. คลอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าอุปกรณ์มาตรฐานได้รับสิทธิ์ยืม True Gigatex Fibre Router มูลค่า 3,900 บาทฟรี ค่าติดตั้งและค่าเดินสาย มูลค่า 2,600 บาท (ในระยะสายที่กำหนด)โปรโมชั่นถึง 30 เม.ย. 2563 ทีเด็ดของ True Gigatex Fibre- Router สามารถใช้ต่อสานแลนกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ , โน๊ตบุ๊ก ปล่อย wifi กับมือถือ ไอแพด สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อม ๆ กันได้ สมาชิกในบ้านเยอะยิ่งคุ้มค่ะ- ความเร็วเน็ต 1 Gbps. สามารถโหลดหนัง Full HD ความยาว 2 ชม. เพียง 6 นาที และ หนัง 4K ความยาว 2 ชม. เพียง 4 นาที เร็วแรงแบบนี้ ดูหนังเพลิน ๆ ไม่มีสะดุดได้ที่บ้านเลยค่ะ- สามารถโหลดรูปภาพ 150 ภาพ ขนาด 300 MB ภายใน 3 วินาที - โหลดเพลง 25 เพลง ขนาด 120 MB เพียง 1 วินาที - สายเกมต้องไม่พลาด โหลดเกมขนาด 1.5 GB แค่ 12 วินาที เท่านั้น เร็วแรงเว่อร์สำหรับ True Gigatex Fibre เป็นอินเตอร์เน็ตบ้านที่ตอบโจทย์ในด้านความเร็วแรงของเน็ตที่มีให้ถึง 1 Gbps. จะดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง ดาวน์โหลดเพียงไม่กี่นาที บ้านไหนที่มีสมาชิกเยอะ ๆ ในครอบครัว หรือคนที่ต้องทำงาน ในช่วง COVID-19 ที่ต้อง Work from home อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบนี้ต้องมีติดบ้านนะคะ โปรแรง ๆ แบบนี้รีบสมัครเลยค่ะ ^^สนใจสมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truegigatexfiber.com/ ขอบคุณภาพจาก https://truegigatexfiber.com/
๋๋JiJi • 8 เม.ย. 63
อ่าน
ฝีมือคนไทย! Midnight Thread C1 เมาส์เกมมิงไร้สายหนึ่งเดียวที่ใช้วัสดุ Carbon Fiber เปิดระดมทุนบน Kickstarter ณ เวลานี้!
Midnight Thread แบรนด์ฝีมือคนไทย เปิดระดมทุนบน Kickstarter สำหรับโปรเจกต์เมาส์เกมมิงไร้สาย (wireless gaming mouse) ‘Midnight Thread C1’ ที่มีเอกลักษณ์คือตัวเมาส์ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ โดยมีเป้าหมายในการระดมทุนอยู่ที่ 65,000 เหรียญ ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 เวลา 23:00 น. ซีอีโอและผู้ก่อตั้งของแบรนด์นี้คือ ‘คุณชัชพงษ์ ลาภพิทักษ์พงษ์’ เด็กไทยที่มีใจรักในการเล่นเกม และมีความฝันอยากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยว่า เป็นประเทศที่ผลิต gaming mouse ระดับพรีเมียมด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นเจ้าแรกของโลก วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) จุดเด่นอันดับแรกของ Midnight Thread C1 จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ความแข็งแรงทนทาน แต่กลับมีน้ำหนักเบา ทำให้ C1 เป็นหนึ่งในเมาส์ที่มีโครงส่วนนอกบางที่สุดเพียง 0.5 มม. และมีน้ำหนักเบา 48 กรัมเท่านั้น (เมาส์โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยในช่วง 90 – 120 กรัม) ดีไซน์ให้เข้ากับการจับเมาส์ 3 รูปแบบหลัก (Shape) C1 ถูกดีไซน์ด้วยรูปทรงแบบ Custom Biconcave ตามหลักวิศวกรรม เพื่อให้รองรับการจับเมาส์ 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ แบบอุ้งมือ (Palm Grip), ปลายนิ้ว (Fingertip Grip), และแบบกรงเล็บ (Claw Grip) ประสิทธิภาพ (Performance) นอกจากด้านนอกจะใช้วัสดุระดับพรีเมียมแล้ว ฮาร์ดแวร์ด้านในก็ไม่ธรรมดา เพราะมีการใช้เซนเซอร์ PNW3395 ซึ่งเป็นชิปตัวใหม่ล่าสุด พร้อม built-in motion sync support ทำให้ไม่เกิดการเหลื่อมของการตอบสนอง สามารถส่งสัญญาณได้ในระดับ 1000Hz (1ms) และสามารถปรับค่า DPI ได้สูงสุด 32000 DPI สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่ Youtube และ เว็บไซต์ หรือหากใครที่สนใจจะสนับสนุนในโปรเจกต์นี้ก็สามารถเข้าไปที่ Kickstarter ได้เลย! พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
แบไต๋ • 28 ต.ค. 65
อ่าน
New Honda GROM!! ครั้งแรกของมอเตอร์ไซค์ที่ D.I.Y. ได้ด้วยตัวเอง
ฮอนด้าเปิดตัว New Honda GROM มินิไบค์ดีไซน์ใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ พร้อมความเร้าใจในการขับขี่ ครั้งแรกของมอเตอร์ไซค์ที่ D.I.Y. ได้ด้วยตัวเองแบบไร้ขีดจำกัด เอ.พี. ฮอนด้า สร้างปรากฏการณ์สนั่นวงการรถจักรยานยนต์ไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว New Honda GROM มินิไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย พัฒนาภายใต้คอนเซปต์ Mod It Yourself แต่งใหญ่...ใส่ให้สุด เน้นความสนุกในการแต่งรถในสไตล์ที่หลากหลายได้ด้วยตัวเอง ขับขี่มันส์ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ 125 ซีซี เกียร์ 5 สปีด พร้อมด้วยฟังก์ชันล้ำสมัยครบครัน วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถ Honda MSX125 เป็นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2013 ได้ก่อให้เกิดกระแสมินิไบค์ฟีเวอร์ขึ้น แต่ความสำเร็จในครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ฮอนด้าหยุดการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ แต่กลับยิ่งท้าทายให้เราต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ New Honda GROM รถคอนเซปต์ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นให้เจ้าของรถสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ได้ด้วยตัวเอง สนุกไปกับรูปทรงที่หลากหลาย และไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่ไม่จำเจ เร้าใจไปกับเครื่องยนต์ใหม่ ชุดเกียร์ใหม่ ที่สามารถตอบสนองผู้ขับขี่ได้มากกว่าเดิม เราเชื่อว่านี่คือรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาสิ่งที่สะท้อนตัวตนในแบบที่ไม่เหมือนใคร New Honda GROM ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Mod It Yourself แต่งใหญ่ใส่ให้สุด ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งชิ้นส่วนภายนอกของรถได้อย่างเต็มที่ด้วยตัวเองในแบบ D.I.Y. ด้วยจุดยึดแบบพิเศษที่ช่วยให้การถอดประกอบเป็นเรื่องง่าย พร้อมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตกแต่งได้อย่างสะดวกสบาย เสริมไลฟ์สไตล์ความเท่ของตัวเองได้แบบไม่ซ้ำใคร New Honda GROM ให้เสน่ห์ของความเป็นมินิไบค์ที่ขับขี่เร้าใจ ติดตั้งฟังก์ชันระดับบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้า Full LED Headlight ดีไซน์เฉียบ ให้ความโฉบเฉี่ยวลงตัว แผงหน้าปัดเรือนไมล์ดิจิทัล Full LCD Panel แสดงข้อมูลครบถ้วนทุกรายละเอียดรวมถึงตำแหน่งเกียร์ บิดสนุกเร้าใจด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบรถสปอร์ตพันธุ์แท้ ส่งกำลังด้วยระบบคลัทช์มือที่ประสานความแรงกับชุดเกียร์ 5 สปีด ให้สมรรถนะสูงสุดในคลาส ควบคุมง่าย คล่องตัว โช้คหน้าแบบหัวกลับดูดซับแรงกระแทกได้อย่างไร้กังวล ล้อแม็กซ์ดีไซน์ใหม่พร้อมยางหน้ากว้าง Tubeless ขนาด 12 นิ้ว มั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS with G-Sensor เทคโนโลยีจากสนามแข่งของรถซูเปอร์สปอร์ตระดับท็อป เอ.พี. ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย New Honda GROM ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ABS with G-Sensor สีเทา-ดำ ราคาแนะนำ 77,400 บาท และรุ่น Standard มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีแดง-ดำ, สีน้ำเงิน-ดำ และสีดำ ราคาแนะนำที่ 69,900 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ ฮอนด้าได้นำเสนอชุดแต่งพิเศษแบรนด์ H2C By Honda ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งได้เองในสไตล์ D.I.Y. โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ แบบสแครมเบลอร์ (Scrambler) ที่เน้นความเท่อย่างมีคลาส แบบโมตาร์ด (Motard) ที่ให้บุคลิกของคนเมืองสายลุย และแบบแอดเวนเจอร์ (Adventure) ที่ถ่ายทอดความเป็นนักเดินทางยุคใหม่ โดยทั้งหมดพร้อมวางจำหน่ายที่ศูนย์ Honda Wing Center ให้ผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Honda GROM ได้ที่เว็บไซต์ : www.aphonda.co.thเฟซบุ๊ก : www.fb.com/hondamotorcyclethailandยูทูบ : www.youtube.com/hondamotorcycletha ------------------------------------------------- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครั้งแรก!! ฮอนด้า จับมือแฟลชเอ็กซ์เพรส์ และโออาร์ นำรถ Honda PCX Electric มาใช้Find Your Original !! เอ.พี. ฮอนด้า เปิดตัวโมเดลใหม่ All New Super Cub ------------------------------------------------- ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station คลิกที่นี่ รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่
ไลฟ์สไตล์ • 22 ต.ค. 63
อ่าน
'Hello Fiber' น้ำแมงลักกลิ่นองุ่น ทางเลือกสุขภาพสำหรับคนอยากหุ่นดี
สาว ๆ คนไหนอยากหุ่นดีบ้างคะ? ผู้เขียนเชื่อว่าสาว ๆ ทุกคนอยากมีหุ่นและรูปร่างที่ตัวเองใฝ่ฝัน เพียงแต่รูปร่างนั้นอาจจะแตกต่างกันไป ตามความชอบของแต่ละคน และผู้เขียนก็เข้าใจดีว่าการควบคุมอาหารและรูปร่างมันยากมาก ๆ เพราะผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่มีความสุขกับการกินที่สุด ฮ่าา แล้วยังมีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่าย นั่นคืออาการท้องผูกด้วยค่ะ ผู้เขียนไม่ชอบทานผัก จึงต้องหาตัวช่วยอย่างน้ำผักผลไม้ ซึ่งมันโอเคมาก ๆ ดีกว่าทานเยอะเลยค่ะ และวันนี้ก็ไปเจอไอเทมดี ๆ สำหรับคนรักสุขภาพและรูปร่างมาค่ะ เลยอยากจะมาแนะนำต่อ เผื่อว่าใครเจอปัญหาเดียวกันอยู่ ไอเทมที่ว่าก็คือ น้ำแมงลักกลิ่นองุ่น ของแบรนด์ Hello ค่ะ พอเห็นว่าเป็นน้ำแมงลักก็สนใจเลย เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่าแมงลักมีสรรพคุณดี ๆ ในเรื่องของการช่วยขับถ่าย และยังมีกลิ่นองุ่น ตัวช่วยให้ทานง่าย และอร่อยขึ้นด้วย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ขวดนี้ผู้เขียนซื้อมา 15 บาท ในปริมาณ 300 มิลลิลิตร โดยส่วนผสมจะเป็นน้ำแมงลักสูงถึง 93.4% เลยค่ะ มีใยอาหาร 1.6% และน้ำตาลเพียง 5% ปริมาณน้ำตาลไม่เกินมาตรฐาน ทำให้มีเครื่องหมาย 'เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ' อยู่ค่ะ มีไฟเบอร์มากถึง 6,000 มิลลิกรัม พลังงานแค่ 90 กิโลแครอลรีค่ะ น้ำแมงลักจะเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นสีขององุ่น ก่อนดื่มต้องเขย่าขวดเยอะนิดนึงนะคะ เพราะแมงลักจะอยู่ด้านล่างซะส่วนใหญ่ เขย่ายากนิดนึง เพราะเครื่องดื่มค่อนข้างเข้มข้น คล้ายวุ้น กลิ่นหอมองุ่นมาก ๆ ค่ะ ดื่มง่ายมาก รสชาติเหมือนน้ำองุ่นทั่วไปเลย เปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะ มีแมงลักเพิ่มเนื้อสัมผัสคล้าย ๆ มีวุ้นหรือเม็ดบุกด้วยเลย โดยส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่ารสชาติโอเคนะคะ ปกติทานแมงลักอยู่แล้ว ในน้ำแข็งไสอะไรแบบนี้ เคยทานแมงลักเปล่า ๆ แล้วรู้สึกไม่อร่อย เลยไม่เคยลองทานแบบเครื่องดื่มเลยค่ะ ส่วนตัวนี้อาจจะเป็นเพราะว่ามีการแต่งกลิ่นองุ่นด้วย เลยทำให้รสชาติดี ดื่มง่ายขึ้น ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ข้างขวดบอกไว้ว่าเปิดแล้วควรทานให้หมดภายใน 1 วันนะคะ ด้วยความที่มีส่วนผสมของพืชที่ค่อนข้างสด แต่เปิดแล้วก็น่าจะทานหมดแบบรวดเดียวเลย เพราะอร่อย ดื่มตอนกลางวันอากาศร้อน ๆ คือสดชื่นดีมากเลยค่ะ เหมาะกับช่วงหน้าร้อนนี้เลย สรุปคะแนนกันเลยดีกว่า รสชาติ : 10/10 รสชาติโอเคเลยค่ะ ไม่หวานหรือเปรี้ยวเกิน กลิ่น : 10/10 กลิ่นหอมองุ่น สดชื่นมาก ความคุ้มค่า :10/10 ขวดนี้ 300 มิลลิลิตร ในราคา 15 บาทเท่านั้นค่ะ เนื้อสัมผัส : 8/10 ไม่รู้จะเรียกคะแนนตรงนี้ว่าอะไร แต่อยากหักตรงที่แมงลักไม่ค่อยลอยขึ้นมา ทำให้เวลาดื่ม ได้แต่น้ำเป็นส่วนใหญ่ น้ำหมดแล้ว เจ้าแมงลักยังกองกันเต็มก้นขวดเลย😂 ภาพถ่ายโดยผู้เขียน สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ผู้เขียนแนะนำเลยนะคะ แมงลักช่วยได้มากจริง ๆ ดื่มเพื่อความสดชื่นก็ได้ อร่อยแถมได้ประโยชน์ด้วยน้า
แมวสามสี • 9 เม.ย. 63
อ่าน
10 อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จาก timeshighereducation.com (Top 10 World University Ranking)
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย Times Higher Education ในปี 2563 มีมหาวิทยาลัยเกือบ 1,400 แห่งใน 92 ประเทศทั่วโลกซึ่งถือเป็นอันดับมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดและหลากหลายที่สุดในปัจจุบัน โดยชีวัดจากตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพอย่างละเอียดจำนวน 13 ข้อเพื่อวัดประสิทธิภาพของสถาบันทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัย การถ่ายทอดความรู้รวมทั้งมุมมองระหว่างประเทศ ประกอบด้วย การสอน (สภาพแวดล้อมการเรียนรู้): 30% งานวิจัย 30% ประสิทธิภาพของงานวิจัย 30% มุมมองระดับนานาชาติ (สัดส่วนของนักศึกษาต่างชาติ บุคลากร และความร่วมมือระหว่างประเทศ) 7.5% รายได้ (การถ่ายทอดความรู้): 2.5%(cr: www.timeshighereducation.com)อันดับ 10. Imperial College London (สหราชอาณาจักร) คะแนนรวม 89.8%(cr: imperial.ac.uk)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 10 หล่นลงมาจากอันดับที่ 9 อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอนเป็นมหาวิทยาลัยใจกลางกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมุ่งเน้นการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การแพทย์ และธุรกิจอันดับ 9. University of Chicago (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 90.2%(cr: goodschoolsguide.co.uk)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 9 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 10 ในปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยชิคาโก ตั้งอยู่ทางใต้ของใจกลางเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประมาณ 6 ไมล์ เป็นมหาวิทยาลัยเน้นการวิจัย (Research University) ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาและของโลก โดยเฉพาะในด้านวิชาการ และผลงานวิจัยต่าง ๆ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาที่มีผู้เกี่ยวข้องได้รับรางวัลโนเบลเป็นจำนวนมากอันดับ 8. Yale University (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 91.7%(cr: marj3.com)ยังคงเป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 8 ต่อมาเป็นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเยล เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ในนิวเฮเวน รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งใน ค.ศ. 1701 มหาวิทยาลัยเยลเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยเยลอยู่ในกลุ่มไอวี่ลีกอันดับ 7. Harvard University (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 93.0%(cr: scholarship-positions.com)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 7 หล่นลงมาจากอันดับ 6 ย้อนกลับไปในปี 1636 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีองค์กรนักศึกษามากกว่า 400 แห่งในวิทยาเขตและโรงเรียนแพทย์ของ Harvard เชื่อมต่อกับโรงพยาบาล 10 แห่งอันดับ 6. Princeton University (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 93.2%(cr: princeton.edu)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 6 ขยับขึ้นมา 1 อันดับ จากที่ครองอันดับที่ 7 ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน พรินซ์ตันเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1746 ในฐานะวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2439 เพื่อเป็นเกียรติแก่พื้นที่ซึ่งตั้งอยู่เปิดโรงเรียนบัณฑิตที่มีชื่อเสียงในปี 2443 อันดับ 5. Massachusetts Institute of Technology (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 93.6%(cr: mit.edu)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 5 หล่นลงมา 1 อันดับจากปี 2562 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เป็นมหาวิทยาลัยการวิจัยเอกชนแบบสหศึกษาศึกษาเอกชนตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์รัฐแมสซาชูเซตส์ MIT ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2404 มีเป้าหมายเพื่อ“ ความรู้เพิ่มเติมและเตรียมความพร้อมนักเรียนในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสาขาการศึกษาอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและโลกในปัจจุบันอันดับ 4. Stanford University (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 94.3%(cr: wikipedia.org)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 4 หล่นลงมา 1 อันดับ จากที่เคยครองอันดับ 3 มาสี่ปีซ้อน มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ตั้งอยู่ที่เมือง สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อยู่ห่างจากซานฟรานซิสโกประมาณ 60 กม. สแตนฟอร์ดตั้งอยู่ในศูนย์กลางของซิลิคอนแวลลีย์ในเคาน์ตีซานตาคลารา และมหาวิทยาลัยอยู่ในบริเวณเมืองพาโลอัลโต มหาวิทยาลัยก่อตั้งในปี พ.ศ. 2434อันดับ 3. University of Cambridge (สหราชอาณาจักร) คะแนนรวม 94.4%(cr: www.jeanlucbenazet.com)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 3 หล่นลงมา 1 อันดับ จากที่เคยครองอันดับ 2 มาในปี 2561 และ 2562 มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ในสหราชอาณาจักร มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่สองของสหราชอาณาจักรที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่อันดับ 2. California Institute of Technology (สหรัฐอเมริกา) คะแนนรวม 94.5%(cr: en.wikipedia.org)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 2 ขยับขึ้นมา 3 จากปี 2562 สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย หรือ แคลเทค มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัยหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน วิทยาศาสตร์ และ วิศวกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะในสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมอากาศยาน และวิศวกรรมเครื่องกลอันดับ 1. University of Oxford (สหราชอาณาจักร) คะแนนรวม 95.4%(cr: www.ox.ac.uk)เป็นมหาวิยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ โดยมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในเมืองออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร มีห้องสมุดกว่า 100 แห่งทำให้เป็นระบบห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร จำนวนนักศึกษาประมาณ 22,000 คน ซึ่งมากกว่าครึ่งของจำนวนนักศึกษาเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดย 40% เป็นนักเรียนต่างชาติ จากจำนวนกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
อรงกรณ์ เชื่อมกระโทก • 8 มิ.ย. 63
อ่าน
หอการค้าไทยก้าวสู่ Ai-First University แห่งแรกของประเทศ
หอการค้าไทยเดินหน้าสู่อนาคต เปิดตัวมหาวิทยาลัย Ai-First แห่งแรกในไทยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ได้เปิดรับคณะผู้บริหารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ซึ่งนำโดย ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการ NECTEC พร้อมทีมงานรวม 11 คน เพื่อเข้าศึกษาดูงานโครงการ “Ai UTCC” ซึ่งกำลังกลายเป็นต้นแบบการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยในยุคปัญญาประดิษฐ์การพัฒนาของโครงการนี้มุ่งยกระดับมหาวิทยาลัยสู่การเป็น “Ai-First University” แห่งแรกในประเทศ โดยเน้นความครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีสนับสนุนการเรียนการสอน และจริยธรรมการใช้งาน AI อย่างปลอดภัย วิสัยทัศน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนรองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อมุ่งพัฒนาบุคลากรและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศอย่างมั่นคง เมื่อประเทศต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI ก็จำเป็นต้องมีการปฏิรูปการเรียนการสอนครั้งใหญ่ เพื่อให้ตอบโจทย์อนาคตด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยจึงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยี AI และพัฒนาระบบสนับสนุนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูง โดยยังคงยึดถือคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นมนุษย์ในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติAI UTCC เปลี่ยนโฉมการศึกษาทั้งระบบผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัชชัย หวังวิวัฒนา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้นำเสนอรายละเอียดของโครงการ Ai UTCC ซึ่งเป็นระบบการศึกษาที่ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเข้าเรียน ระหว่างศึกษา ไปจนถึงหลังสำเร็จการศึกษาโครงการนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่น่าสนใจ ได้แก่JARVIS ระบบผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่คิดให้คำแนะนำด้านการเรียนและชีวิตประจำวันAI ChatBot ที่ฝังในทุกหลักสูตร พร้อมเสริมการเรียนรู้เชิงกิจกรรมด้วยแนวคิด AI ในทุกศาสตร์AI 101 วิชาพื้นฐานที่ออกแบบให้นักศึกษามีทักษะด้าน AI ตรงความต้องการตลาดแรงงาน โดยไม่ละทิ้งเรื่องจริยธรรมHarbourSpace@UTCC โครงการความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากซิลิคอนวัลเลย์ AWS และ Google เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งNECTEC เห็นพ้องศักยภาพ พร้อมขยายผลระดับชาติดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการ NECTEC ระบุว่า ความคืบหน้าของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในการขับเคลื่อนทั้งองค์กรเข้าสู่มหาวิทยาลัย AI ถือเป็นก้าวย่างที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะความพร้อมด้านระบบสนับสนุน การออกแบบหลักสูตร และโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศแนวทางของโครงการนี้จึงน่าจะเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นกรณีศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมตัวปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ สร้างบุคลากรแห่งอนาคต สู่เศรษฐกิจดิจิทัลโครงการ Ai UTCC ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงภายในองค์กร แต่ยังสะท้อนถึงแนวทางใหม่ของระบบการศึกษาไทยที่จะต้องตอบสนองต่อโลกแห่งปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการผลิตบัณฑิตที่มีทั้งความสามารถด้านเทคโนโลยี และจิตสำนึกในจริยธรรมแบบจำลองจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างบุคลากรที่พร้อมใช้งานในตลาดแรงงานแห่งอนาคต และวางรากฐานการเปลี่ยนผ่านระบบการศึกษาสู่ยุคใหม่อย่างยั่งยืน
TNN ช่อง16 • 10 ก.ค. 68
อ่าน
เปิดให้ใช้พื้นที่ฟรี! TDPK University Campaign สิทธิพิเศษสําหรับนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย
TDPK University Campaign สิทธิพิเศษสําหรับนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย นั่งฟรี Co-working space 12 เดือน ชวนนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย นั่งฟรี 12 เดือน ที่ Co-working space, True Digital Park ติด BTS ปุณณวิถี มูลค่ารวมสูงถึง 90,000 บาท/ท่าน* มาเปลี่ยนบรรยากาศ เรียนออนไลน์ อัดคลิป YouTube และจองห้องประชุมทํางานกลุ่ม อีกทั้งยังมีร้านค้าครบครัน ทั้ง กิน ช้อป ออกกําลังกาย ทุกความเป็นไปได้ในที่เดียว ✔️ โต๊ะทํางานดีไซน์ทันสมัยกว่า 250 ที่นั่ง ✔️ ฟรี อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ✔️ ฟรี ชากาแฟและน้ําดื่ม Infused ✔️ ฟรี ที่จอดรถ 3 ช.ม. ✔️ บริการเครื่องปริ้นท์ความละเอียดสูง พร้อมมาตรการรักษาความสะอาด และเว้นระยะห่างทางสังคมจาก TDPK Care รับสิทธิพิเศษ ง่ายๆ 1)เพียง Add LINE https://lin.ee/rPpgy85 2) พิมพ์ Code STU163 และการตอบรับ confirmation เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่ วันนี้ 31 ต.ค. 2563 ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดให้บริการ จันทร์ ศุกร์ เวลา 09.00 18.00 น. และปิดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์ *สงวนสิทธิเฉพาะนักศึกษา 1 คน ต่อ 1 สิทธิ เท่านั้น และสามารถใช้ Co-working space ได้ตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 31 ก.ค. 64
TrueID • 15 ก.ย. 63
อ่าน
Fashion D.I.Y
Fashion D.I.Y เครดิต: https://pixabay.com/ เชื่อสิว่าสาวๆ หลายคนคือเจ้าแม่แฟชั่น ที่มักจะชอบสรรหาไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่ทรงผม สีผม รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่บ่งบอกว่าพวกคุณนั้นมีแฟชั่นอยู่ในสายเลือด แต่ ! เดี๋ยว ๆ เดินสวนกับใครบางคนในห้างสรรพสินค้าหรือสวนสาธารณะ ทำไม ๆ คนนั้นถึงเสื้อเหมือนเรา คนนี้รองเท้าแบบเดียวกัน แบบเจ้าแม่แฟชั่นถึงกับเครียดเบา ๆ มีแต่คนแต่งตัวแบบเราเต็มไปหมด ไม่ได้ล่ะ ! แบบนี้ต้องหาทางออกแต่จะให้เสียเงินเสียทองก็คงไม่ใช่เรื่อง วันนี้เรามีวิธีเก๋ ๆ ที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าแม่แฟชั่นโดยไม่ซ้ำใครแถมยังประหยัดด้วยวิธี D.I.Y เครดิต: https://pixabay.com/ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อแปลงโฉม (รองเท้าผ้าใบสีขาว) รองเท้าผ้าใบสีขาว เทปกาว สีสเปรย์ (ตามชอบ) กะละมัง น้ำ หน้ากากอนามัย ถุงมือ วิธีแปลงร่าง นำรองเท้าผ้าใบมาติดเทปส่วนที่ไม่อยากให้โดนสี ควรระวังติดเทปกาวให้ดีและเรียบเนียนเพื่อความสวยงาม สวมถุงมือและหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันสีเปรย์ นำน้ำใส่กะละมังแล้วพ่นสเปรย์ที่ชอบลงในน้ำเพื่อสร้างชั้นของสีกี่สีก็ได้ตามความต้องการ จากนั้นนำรองเท้าค่อย ๆ จุ่มลงไป แล้วนำไปตากเมื่อสีแห้งแล้วให้ลอกเทปออกเป็นอันเสร็จเรียบร้อย แค่นี้จากผ้าใบสีขาวธรรมดาก็จะปังขึ้นมาทันทีทันใด มีรองเท้าแล้วก็ต้องมีเสื้อ เอาล่ะ ! เราไปแปลงโฉมเสื้อกันต่อเลยดีกว่า อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อแปลงโฉม (เสื้อโอเวอร์ไซส์) เสื้อโอเวอร์ไซส์ ผ้าผูกผมลายเริ่ด ๆ วิธีแปลงร่าง สวมเสื้ออันใหญ่เวอร์ของคุณ รวมชายเสื้อแล้วนำผ้าผูกผมมาผูกเป็นเงื่อน ปมหรือจะเป็นโบว์ก็แล้วจะดีไซน์ จากนั้นก็ยัดปมที่เราปูกไว้เข้าข้างในเพื่อจะโชว์แต่ผ้าผูกผม แค่นี้ง่าย ๆ จากเสื้อเชย ๆ ก็จะปังเวอร์ขึ้นมาทันทีทันใด นี่เป็นเพียงตัวอย่างง่าย ๆ ที่จะนำไปปรับใช้เพื่อให้เข้ากับสไตล์และแฟชั่นของคุณอย่างที่ไม่ต้องซ้ำหรือจำเจแบบคนทั่ว ๆ ไป ลองลุกขึ้นมาอัปเกรดตู้เสื้อผ้าให้คนรอบข้างต้องตะลึงด้วยแฟชั่นที่คุณสร้างขึ้นมาเองกันเถอะค่ะ โก !!! ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: https://pixabay.com/
ไซตะ • 30 ม.ค. 63
อ่าน
Pop-Up card D.I.Y
Pop-Up card D.I.Yสำหรับใครก็ตามที่กำลังคิดหนักกับการหาของประดับตกแต่งเพิ่มเติมสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสหรือของขวัญวันปีใหม่ การ์ดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้รักการประดิษฐ์ประดอย เป็นสิ่งที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของผู้ให้ที่ต้องการส่งให้ผู้รับ วันนี้ผมจึงมีขั้นตอนวิธีการประดิษฐ์การ์ดPop-upอย่างง่ายมาฝากทุกคนครับวัสดุอุปกรณ์กระดาษหน้าปกกระดาษด้านใน (ส่วนที่ใช้เป็น Pop-up) ดินสอ ยางลบ ปากกา ไม้บรรทัด แผ่นรองตัด คัตเตอร์ กาวขั้นตอนการทำ ขีดเส้นแบ่งครึ่งกระดาษพร้อมทำสัญลักษณ์ (ในที่นี้จะเรียกว่า เส้นกึ่งกลาง)ขีดเส้นซึ่งเป็นเส้นที่ติดกับฐานของ Pop-up (ในที่นี้จะเรียกว่า เส้นที่ 1)ขีดเส้นซึ่งเป็นเส้นที่กำหนดความสูงPop-up (ในที่นี้จะเรียกว่า เส้นที่ 2)ขีดเส้นซึ่งเป็นเส้นกำหนดระยะห่างของPop-upและพื้นหลัง (ในที่นี้จะเรียกว่า เส้นที่ 3) โดยระยะห่างระหว่างเส้นกึ่งกลางถึงเส้นที่1 มีความยาวเท่ากับ ระยะห่างระหว่างเส้นที่2 ถึงเส้นที่3วาดรูปPop-upที่เราต้องการโดยให้ฐานหรือพื้นของภาพติดเส้นที่1 และปลายหรือจุดสูงสุดของภาพติดเส้นที่2 โดยขีดเส้นจากขอบบนของรูปภาพไปจนถึงเส้นที่3เพื่อเป็นส่วนที่พยุงPop-upใช้คัตเตอร์กรีดตามขอบรูปภาพจากเส้นที่1 ไปจนถึงเส้นที่3พับกระดาษตามแนวเส้นแต่ละเส้นดังนี้ เส้นที่1พับหุบเขา เส้นที่2พับภูเขา เส้นที่3พับหุบเขา เส้นกึ่งกลางพับหุบเขา (โดยการพับหุบเขาหมายถึงพับให้สันกระดาษออกจากมุมมองผู้พับ การพับภูเขาหมายถึงพับให้สันกระดาษเข้าหามุมมองผู้พับ)ลบเส้นที่ขีดออกให้เรียบร้อยนำกระดาษPop-upติดใส่ด้านในของกระดาษที่ใช้เป็นปกตกแต่งเพิ่มเติมตามความชอบเทคนิคเพิ่มเติม กระดาษที่ใช้เป็นปกควรมีความหนามากกว่าและขนาดใหญ่กว่ากระดาษที่ใช้เป็นPop-upเริ่มแรกอาจทำสัญลักษณ์กำกับเส้นทุกเส้นที่ขีดเนื่องจากมีหลายเส้น หากไม่ทำสัญลักษณ์อาจเกิดการสับสนกันได้ การลบเส้นที่ขีดหรือภาพที่ร่างไว้ควรลบไปทางเดียว เพราะหากลบกลับไปกลับมาอาจทำให้กระดาษยับหรือขาดได้ กาวที่ใช้ควรเป็นกาว2หน้าหรือกาวแท่งสำหรับงานกระดาษ เพราะหากใช้กาวลาเท็กซ์หรือกาวน้ำอาจทำให้หลงเหลือรอยที่กระดาษได้การเปิดการ์ด Pop-Up ให้สวยควรเปิดให้การ์ดเป็นมุมฉากตามรูปภาพและหากใครมีเทคนิคในการประดิษฐ์การ์ดแบบอื่น ๆ ก็สามารถแชร์ข้อมูลได้ในส่วนแสดงความคิดเห็นของบทความนี้ได้เลยครับผมภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน
CMontaque • 23 ธ.ค. 63
อ่าน
D.I.Y. หมอนอิงอุ่นใจ
D.I.Y. หมอนอิงอุ่นใจ By พิณประภา ขันธวุธ บ่อยครั้งที่ทำงานผ้า จับเศษผ้ามาต่อเป็นลวดลาย แล้วรู้สึกไม่สวยงามตามแบบที่ครูเคยสอน รู้สึกเขินอายไม่กล้าอวดใคร เมื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในความทรงจำ บ่อยครั้งเรามักเจ็บปวดเพราะคำพูดคนอื่น เราตัดสินใจไปเองว่าสิ่งไม่สมบูรณ์แบบ คือความไม่สวยงาม เราหลงลืมไปว่าความสมบูรณ์ไม่ใช่สิ่งชี้วัดความสำเร็จ หากอยู่ที่ความพยายามที่จะทำสิ่งนั้น ด้วยสองมือของเราต่างหาก D.I.Y. ฉบับนี้ชวนหยิบเศษผ้ามาต่อเป็นหมอนอิงใบน่ารักกันค่ะ รื้อค้นเศษผ้ามากองรวมกันไว้ หมอนเปลือยอาจเป็นชนิดฟองน้ำ หรือใยสังเคราะห์ก็ได้ หรือบางท่านอาจมีหมอนใบเก่าอยากแปลงโฉมใหม่ ก็หยิบมาทำได้เลยค่ะ กระดาษแข็งสำหรับทำแบบขนาด11x11 ซม. ซิปความยาว 15 นิ้ว (หรือตามขนาดหมอนที่เรามี) ถ้าท่านใดไม่ถนัดใส่ซิป ก็สามารถใช้กระดุมกับยางยืดได้ค่ะ ตัดเศษผ้าให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด11x11 ซม. โดยวางแบบกระดาษแข็งที่ผ้า ใช้ดินสอร่างไว้แล้วตัดตามแบบก็ได้ค่ะ ตัดทั้งหมด 16 ชิ้น จากนั้นนำมาเรียงต่อสลับสีตามความชอบใจ แล้วจึงนำไปเย็บต่อกันทีละชิ้นทำทีละแถวจนเสร็จครบ 4 แถว เมื่อได้แล้วรีดให้เรียบ จะสะดวกต่อการนำมาประกอบเป็นผืนเดียวกัน เมื่อต่อเศษผ้าเป็นผืนเดียวกันได้แล้ว ให้ตัดผ้าผืนใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับที่เราต่อเศษผ้าไว้อีก 1 ชิ้น พับริมและเย็บสำหรับเป็นติดซิปหรือติดกระดุม นำผ้าทั้ง 2 ชิ้น ประกบกันโดยเอาด้านถูกไว้ด้านใน และเย็บประกบทั้งสามด้าน เหลือด้านที่เย็บริมไว้เพื่อใส่หมอนค่ะ เย็บเสร็จแล้วกลับเอาด้านในออก ท่านใดถนัดใส่ซิปก็สามารถเย็บซิปใส่ได้เลย หรือสามารถใช้กระดุมกับยางยืดก็ได้ค่ะ โดยเลือกใช้กระดุมเม็ดใหญ่จำนวน 4 เม็ด เย็บติดกับยางยืดผูกเป็นห่วงไว้ สำหรับคล้องกับกระดุมอีกฝั่งหนึ่ง1. เตรียมอุปกรณ์ค่ะ2. ตัดเศษผ้าขนาด11x11 ซม. จำนวน 16 ชิ้น3. นำเศษผ้าที่ตัดไว้มาเรียงต่อกันตามที่ชอบใจ4. เมื่อเย็บเสร็จ รีดล้มตะเข็บเพื่อเวลาเย็บต่อเป็นผืนจะเย็บง่ายขึ้น5. นำแต่ละแถวที่เย็บเสร็จแล้วมาเรียงต่อกันเป็นผืน6. นำผ้า 2 ชิ้นมาประกบกันโดยหันด้านถูกไว้ด้านใน และเย็บติดกันทั้งสามด้าน7. เตรียมกระดุมกับยางยืด เย็บกระดุมเสร็จแล้วทั้งสองด้าน ใช้วิธีคล้องยางยืดกับกระดุมอีกฝั่งหนึ่งจะได้ตามรูป8. ประกอบร่างนำปลอกหมอนไปใส่หมอนก็จะได้หมอนอิงเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครเพียงเท่านี้ก็จะได้หมอนอิงใบเก๋ไม่ซ้ำใคร แม้จะต่อเศษผ้าไม่พอดีเป๊ะ! แต่พูดได้ไม่อายใคร ว่าทำเองจากสองมือของเราค่ะภาพทั้งหมดโดย : พิณประภา ขันธวุธ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
พิณประภา • 8 ธ.ค. 63
อ่าน
D.I.Y. แมสปิดจมูกใช้เอง
จากสถานการณ์เชื้อไวรัส covid-19 ที่มีที้งผู้ที่ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้ทั้งโลกตื่นตัวและเตรียมรับมือกับ เชื้อไวรัส covid-19 กันมากขึ้นประเทศไทยเองแม้ว่าสถิติผู้ติดเชื้อจะไม่มาก และมีผู้เสียชีวิตแค่รายเดียว แต่การป้องกันและเฝ้าระวัง เชื้อไวรัส covid-19 ก็ต้องมีมากขึ้น การป้องกันจะมีทั้งการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ การใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ เป็นต้น แต่ในการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้คือหน้ากากอนามัยหรือแมสนั่นเอง เพราะเป็นการป้องกันเชื้อโรคทั้งจากตัวเราเอาสู่ผู้อื่นและจากผู้อื่นสู่เราได้เช่นกัน แต่ปัจจุบันด้วยสถานการณ์ เชื้อไวรัส covid-19 ทำให้แมสขาดแคลนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป และโรงพยาบาลเองก็เกิดวิกฤติขาดแคลนด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเจอพ่อค้าแม่ค้าหัวใสพยายามหาช่องทางโก่งราคาแมสให้มีราคาที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า วันนี้ผู้เขียนจึงจะมานำเสนอวิธีทำหน้าแมสผ้าใช้เองแบบง่าย ๆ ราคาถูก และป้องกันเชื้อไวรัส covid-19 ได้ด้วยค่ะ เราไปทำกันเลยค่ะภาพโดยผู้เขียนอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้ค่ะ1. ผ้าลายการ์ตูนที่เราขอบ 2. ผ้าขาว 3. ยางยืดใช้ทำหู4. เข็มเย็บผ้า5. ด้ายสีขาว6. กรรไกร7. ไม้บรรทัด/ดินสอภาพโดยผู้เขียน : เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วให้ตัดผ้าลายการ์ตูน ขนาด 18*16.5 cm. 2 ผืน และผ้าขาวขนาดขนาด 18*16.5 cm. 1 ผืนภาพโดยผู้เขียน : เตรียมใส่ด้ายให้พร้อมภาพโดยผู้เขียน : ตัดยางยืดความยาว 7 cm. 2 เส้นภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นเอาผ้าลายการ์ตูนหันด้านที่เป็นลายสดใสเข้าหาตัวภาพโดยผู้เขียน : แล้วเอายางยืดที่จะใช้ทำหูมาวางไว้ทั้ง 2 ข้างภาพโดยผู้เขียน : นำผ้าลายการ์ตูนอีกชิ้นมาทับด้านบนไว้โดยหันด้านที่เป็นลายสดใสลงข้างล่างภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นนำผ้าขาวมาวางทับผ้าลายการ์ตูนอีกชั้นหนึ่ง รวมจะวางผ้าทับกัน 3 ผืนพอดีค่ะภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นให้เย็บยางยืดติดกับผ้าทั้ง 3 ผืน โดยเย็บทั้ง 4 มุมค่ะภาพโดยผู้เขียน : หลังจากเย็บยางยืดติดกับผ้าทั้ง 4 มุมแล้วให้ใช้ไม้บรรทัดขีดเส้นเพื่อตีกรอบเย็บ โดยขีดเส้นให้ห่างจากชายผ้าประมาณ 1 cm. ทั้ง 3 มุม และอีก 1 มุมให้เว้นช่องไว้ 1 ช่องเล็ก ๆ เผื่อเป็นรูที่ใช้สำหรับกลับผ้านั่นเองค่ะภาพโดยผู้เขียน : วิธีเย็บก็ใช้วิธีการเย็บแบบด้นถอยหลังค่ะ เพราะจะทำให้งานออกมาสวยและเนียนขึ้นค่ะภาพโดยผู้เขียน : เย็บไปให้รอบ อย่าลืมเว้นรูตามที่เราขีดเส้นไว้นะค่ะภาพโดยผู้เขียน : เย็บทั้ง 4 ด้านเสร็จเรียบร้อยภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นให้ดึงผ้าข้างในกลับออกมาค่ะ ค่อย ๆ ดึงนะคะ ไม่งั้นถ้าขาดอาจจะต้องได้เย็บใหม่อีกรอบค่ะภาพโดยผู้เขียน : หลังจากกลับด้านผ้าด้านสวย ๆ ออกมาแล้ว ให้สอยปิดรูที่เราใช้กลับด้านเมื่อกี้ให้เรียบร้อยค่ะภาพโดยผู้เขียน : หลังจากกลับผ้าออกมาแล้วสอยปิดรูแล้ว ก็จะได้ลายผ้าสีสันสดใสแบบนี้ค่ะ และชายขอบที่เราเย็บที่ไม่สวยก็จะกลับเข้าไปอยู่ด้านในแทนค่ะภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นให้พับครึ่งค่ะภาพโดยผู้เขียน : ใช้ดินสอขีดที่พับครึ่งไว้ภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นจีบผ้าเข้ามาประมาณ 1 cm. โดยพับไม่ให้เกินรอยดินสอที่เราขีดไว้ค่ะภาพโดยผู้เขียน : จีบผ้าเข้าหารอยดินสอ ทั้ง 2 ข้างเลยค่ะ ก็จะได้ประมาณนี้ ใช้เข็มหมุดปักไว้ภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นให้เย็บผ้าที่เราจีบแล้วเข้าด้วยกันทั้ง 2 ข้างค่ะภาพโดยผู้เขียน : ก็จะได้ด้านหลังของแมสแบบนี้ ภาพโดยผู้เขียน : ด้านหน้าของเเมสก็จะเป็นแบบนี้ค่ะภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นก็นำแมสที่เย็บเสร็จแล้วไปรีดให้ขึ้นรูปค่ะภาพโดยผู้เขียน : เสร็จแล้วค่ะแมสของเราในวันนี้ภาพโดยผู้เขียน : นั่งเย็บเพลิน ๆ ก็ได้ 4 อัน สวย ๆ ลายน่ารัก ๆ ที่เราชอบ จะเป็นรูปแมสของเราด้านหน้าค่ะภาพโดยผู้เขียน : รูปแมสของเราด้านหลังค่ะภาพโดยผู้เขียน : จากนั้นก็นำไปซักให้สะอาดแล้วนำมารีดอีกรอบหนึ่งค่ะภาพโดยผู้เขียน : นำไปใช้ประโยชน์ใส่แล้วก็จะประมาณนี้ค่ะ สวยเหมือนใช้จักรเย็บผ้าเย็บ สวยเหมือนซื้อมาเลยค่ะภาพโดยผู้เขียน : หรือจะใส่ซองพลาสติดเพื่อเอาให้คนในครอบครัวใช้ หรือแจกเพื่อนบ้าน แจกเพื่อนร่วมงาน หรือจะทำงานเป็นอาชีพเสริมก็ได้นะคะ (แต่อย่าขายเเพงเกินไปนะคะเราถือว่าเราช่วยประเทศช่วยเหลือคนที่เขาไม่มีเงินซื้อแมสแพง ๆ ใส่ค่ะ)การ D.I.Y แมสใช้เองในครั้งนี้ ทำง่ายมาก ๆ ประหยัด และมีประโยชน์ด้วย และในยุคที่แมสสุดแสนจะแพงแบบนี้ แมสผ้าถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่อย่าใช้ซ้ำนะคะ ให้ซักทุกวันเพื่อความสะอาดและปลอดภัยค่ะ เพื่อน ๆ ก็ลองทำกันดูนะคะ
น้ำผึ้งหวาน • 13 มี.ค. 63
อ่าน
รีวิวซีรีส์ "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" ความสนุกจัดเต็ม 24 EP. ทางช่อง GMM25
"สายรหัสเทวดา Perfect10 Liners" ซีรีส์ความยาว 24 EP. ผลงานการกำกับของ "นิว ศิวัจน์" ทาง GMMTV ซึ่งนับว่าเป็นซีรีส์ที่ยาวมากเรื่องหนึ่งในช่วงเวลานี้ เป็นผลงานที่สร้างจากนิยายของ "JittiRain" ที่ใช้ตัวละครกลุ่มเดียวกัน แล้วแยกเส้นเรื่องหลักออกเป็น 3 เรื่อง เรื่องละ 10 ตอน คือ วิศวกรรมประสาท, วิศวกรรณโยธา และ วิศวะกับไฟฟ้า เมื่อนำทุกเรื่องราวชีวิตของเหล่าตัวละครหลัก ซึ่งก็คือ อาร์ค (ฟอส จิรัชพงศ์), อาร์ม (บุ๊ค กษิดิ์เดช), โยธา (เพิร์ธ ธนพนธ์)), กรรณ (แซนต้า พงศภัค), ไฟฟ้า (จูเนียร์), ไวน์(มาร์ค จิรันธนิน) และผองเพื่อนที่รับบทโดย ปูน มิตรภักดี, มาร์ค ณฐริศร์, เจเจ ชยกร, ฟลุ๊ค จีรัสณ์, เอมี่ ทสร, กวิน แคสกี้, เดรก สัตบุตร และ เอิร์น ปรียาภัทย์ เป็นซีรีส์ที่จะทำให้ทุกคนที่ติดตาม สนุกไปกับเรื่องราวของพวกเขาอย่างมากมาย และก่อนที่จะไปติดตามชมซีรีส์ มาทำความรู้จักกับพวกเขา เพื่อเพิ่มอรรถรสความสนุกในการติดตามชมซีรีส์กันก่อนค่ะ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" "อาร์ม" (บุ๊ค กษิดิ์เดช), "แซนด์" (ปูน มิตรภักดี), และ "ปีโป้" (เจเจ ชยกร) สามหนุ่มเพื่อนรักที่เรียนชั้นมัธยมปลายมาด้วยกัน เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ก็ยังได้เรียนที่เดียวกัน และยังตามมาเป็นรูมเมทกันอีก อย่างไม่ยอมแยกจากกันไปไหนแม้ว่าจะเรียนคนละคณะกัน อาร์มเข้าเรียนในคณะวิศวะ ในวันคัดเลือกสายรหัส เขาจับฉลากได้อยู่ในสายรหัสเทวดา ซึ่งเป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะสายรหัสนี้มีแต่คนหน้าตาดี แม้ว่าจะเป็นการจับฉลาก แต่ก็ไม่เคยพลาดเลยสักปีที่จะได้คนหน้าตาดีมาร่วมสาย รุ่นพี่ที่เป็นสายรหัสของอาร์มไล่ตั้งแต่อายุมากสุด ลุงรหัส ก็คือ "พี่อาร์ค" ( ฟอส จิรัชพงศ์) น้ารหัส "พี่เจต" (ฟลุ๊ค จีรัสณ์) พี่รหัส "พี่ญี่ปุ่น" (เอมี่ ทสร) หญิงสาวคนเดียวในสาย และเมื่ออาร์มก้าวไปเป็นรุ่นพี่ ปีต่อมาน้องรหัสของเขาคือ "โยธา" (เพิร์ธ ธนพนธ์) และน้องใหม่ล่าสุดก็คือ "วิศวะ หรือไวน์" (มาร์ค จิรันธนิน) เรื่องราววุ่น ๆ เริ่มตั้งแต่อาร์มมารับหน้าที่เป็นแอดมินเพจ Engineer Cute Boy แล้วนำรูปเทวดาสายโหดอย่างพี่อาร์คมาลงในเพจ ตามคำเรียกร้องของเหล่าลูกเพจที่อยากเห็นความหล่อของผูู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเดือนเหนือเดือน เพราะหล่อที่สุดในคณะแต่ไม่ยอมลงประกวด จึงเป็นชายหนุ่มที่เจ้าเสน่ห์ที่สุด ด้วยความผิดพลาดของอาร์มที่ทำให้พี่อาร์คโกรธสุด ๆ ตั้งแต่นั้นพี่อาร์คก็เข้ามาวนเวียนในชีวิตอาร์มแบบติดหนึบไม่ยอมไปไหนอีกเลย ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเทวดาสายลึกลับ "โยธา" (เพิร์ธ ธนพนธ์) รู้ว่า "กรรณ" (แซนต้า พงศภัค) เพื่อนร่วมรุ่น มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับในที่มืด จึงอาสามาเป็นรูมเมท ส่วน "ไฟฟ้า" (จูเนียร์ ปณชัย) น้องชายของโยธา ซึ่งสนใจ "ไวน์" (มาร์ค จิรันธนิน) เทวดาสายอาภัพตั้งแต่แรกพบ จึงเข้ามาใกล้ชิดดูแลหัวใจของชายหนุ่มโดยไม่ต้องร้องขอ ความรักและมิตรภาพที่ก่อเกิดในรั้ววิศวะจึงเต็มไปด้วยความน่าสนใจ และต้องติดตามกันอย่างไม่ให้พลาดเลยสักตอนเดียว นักแสดง "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners/วิศวกรรมประสาท" รู้จัก 6 นักแสดงนำ "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" "ฟอส จิรัชพงศ์" - "บุ๊ค กษิดิ์เดช" "ฟอส จิรัชพงศ์" และ "บุ๊ค กษิดิ์เดช" เป็นเพื่อนที่เรียนหนังสือร่วมโรงเรียนเดียวกันมา ตั้งแต่ชั้นอนุุบาล กระทั่งมัธยมปลาย ได้แยกย้ายกันไปในช่วงเวลาที่เรียนมหาวิทยาลัย และได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อได้มาเป็นศิลปินภายใต้สังกัด GMMTV เช่นเดียวกัน และได้มาร่วมงานกันตั้งแต่ปี 2022 กระทั้งปัจจุบัน ที่ได้ร่วมงานกันมาถึง 4 เรื่องด้วยกัน Enchante' ใครคือ…อองชองเต, ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe, Only Friends เพื่อนต้องห้าม และ สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners นักแสดงนำในตอน วิศวกรรมประสาท การร่วมงานกันมาหลายเรื่อง ทำให้ทั้งสองคนสามารถร่วมงานกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แฟน ๆ ที่ติดตามอินไปกับความสัมพันธ์น่ารัก ๆ ของทั้งคู่ในทุก ๆ ผลงาน แต่ก็เป็นการท้าทายความสามารถของทั้งคู่ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อร่วมงานกันมาหลาย ๆ เรื่อง ก็ต้องทำการบ้านกันอย่างหนักมากขึ้นที่จะออกแบบคาแรคเตอร์ของตัวละครไม่ให้ซ้ำเดิม ซึ่งทั้งสองคนก็โชว์ความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยม "ฟอส" ในคาแรคเตอร์ "พี่อาร์ค" หนุ่มวิศวะที่โดดเด่นในเรื่องความหล่อ เป็นนักกีฬาฟุตบอลขวัญใจสาว ๆ ที่ไม่สนใจใครทั้งสิ้น เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ ด้วยความโผงผาง สายฟาด จนใคร ๆ ก็พากันขยาด แต่ขณะเดียวกันเมื่อสนใจ "อาร์ค" ที่รับบทโดย "บุ๊ค" ก็กลายเป็นหนุ่มคลั่งรักที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร เป็นเสน่ห์ที่ทำให้แฟน ๆ ละสายตาจากความเท่ของพี่อาร์คไม่ได้เลย ในขณะที่ "อาร์ม" เป็นหนุ่มน้อยหน้าใส เป็นมิตรกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม สดใส และความเป็นหนุ่มร่าเริง ช่างพูดช่างคุย แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นหนุ่มสายเหวี่ยง ขี้บ่น แต่ก็แอบ ๆ เหวี่ยงเวลาที่อยู่คนเดียว ประสาคนดื้อเงียบ ตืดตามอาร์มแล้วฮาได้กับทุกสถานการณ์ชีวิตของเขาเลยทีเดียว "เพิร์ธ ธนพนธ์" - "แซนต้า พงศภัค" "เพิร์ธ ธนพนธ์" มีผลงานทางด้านการแสดงจากค่าย GMMTV ให้ได้ชมมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เพื่อนายแค่หนึ่งเดียว, สองเดือดเลือดเดียวกัน, หัวใจในสายลม Dangerous Romance และล่าสุดเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ บ้านหลอน ON SALE และได้มาร่วมงานคู่กับ "แซนต้า พงศภัค" เป็นครั้งแรกใน "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" เป็นนักแสดงนำในตอนวิศวกรรณโยธา "แซนต้า" เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่การเป็นศิลปินในสังกัด GMMTV เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดีของแฟน ๆ จากผลงานหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา อาทิซีรีส์ 7 Project ตอน Would you be my love, War of Y ตอน The New Ship, ลุ้นรัก 12%, เชือกป่าน Between Us ฯลฯ การร่วมงานของทั้งคู่ในเรื่องนี้ "เพิร์ธ" รับบทเป็น "โยธา" น้องรหัสของ "อาร์ม" (บุ๊ค กษิดิ์เดช) และเป็นพี่รหัสของ "ไวน์" (มาร์ค จิรันธนิน) คาแรคเตอร์เป็นชายหนุ่มที่เงียบขรึม เจ้าของฉายาชายหนุ่มแห่งความมืดมนของคณะวิศวะ ด้วยความเป็นหนุ่มอินโทรเวิร์ต มีปมปัญหาในชีวิต จึงไม่ค่อยสุงสิงกับใคร กระทั่งได้พบ "กรรณ" (แซนต้า พงศภัค) ทำให้มีเรื่องราวดี ๆ ผ่านเข้ามา ชีวิตของเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไป "แซนต้า" ในบทบาท "กรรณ" นั้น เป็นชายหนุ่มที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างจากโยธา เป็นคนที่สดใส ร่าเริง เป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มให้โยธาได้รับความรู้สึกดี ๆ แม้ร่วมงานกันครั้งแรก แต่เคมีความน่ารักทั้งสองคนก็เข้ากันอย่างลงตัว "จูเนียร์ ปณชัย" - "มาร์ค จิรันธนิน" "จูเนียร์ ปณชัย" กับ "มาร์ค จิรันธนิน" เป็นคู่ที่แฟน ๆ ที่ติดตามกันมาอยากเห็นทั้ง 2 คนร่วมงานกันอีกครั้งอย่างน่นอน เพราะจากซีรีส์ "Cherry Magic 30 ยังซิง" ที่ได้ร่วมงานกันมา ทำให้แฟน ๆ ประทับใจมาก ๆ "จูเนียร์" มีผลงานการแสดมาตั้งแต่ปี 2016 เริ่มจากซีรีส์ I Hate You, I Love You, Project S The Series, Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล, Wish Me Luck สุดที่รักษ์ และอีกหลาย ๆ ผลงานรวมทั้ง สายรหัสเทวดา Perfect10 Liners ที่คาแรคเตอร์ต่างกันไป ส่วน "มาร์ค" ก็มีหลาย ๆ ผลงานให้แฟน ๆ ได้ประทับใจ โดยเฉพาะจากซีรีส์ "ขั้วฟ้าของผม Sky In Your Heart" ในบทบาท ปริ๊นซ์ หรือครูพิ้น เมื่อไปเป็นคุณครูสอนหนังสือให้เด็ก ๆ บนดอย จากที่จูเนียร์กับมาร์คเคยร่วมงานกันมาแล้ว การมารับงานแสดงคู่กันอีกครั้ง จึงเป็นการทำงานที่สื่อสารกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันที่คาแรคเตอร์ซึ่งต่างจากที่ผ่านมา "จูเนียร์" ในบทบาท "ไฟฟ้า" เป็นชายหนุ่มที่สดใสสุด ๆ แตกต่างจาก "โยธา" ผู้เป็นพี่ชายโดยสิ้นเชิง เป็นคนที่เพื่อนเยอะ ใคร ๆ อยู่ใกล้ก็หลงรักในความน่ารัก สดใสนั้น ขณะที่ "ไวน์" เป็นหนุ่มอินโทรเวิร์ต มีสีหน้านิ่งเฉย ไม่แสดงความรู้สึก อย่างคนที่มีปมปัญหาในใจ เพราะผิดหวังจากความรักมา และเมื่อได้พบไฟฟ้า ทำให้เขาเริ่มเปิดใจให้กับความรักอีกครั้ง ซีรีส์ "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" เป็นผลงานการกำกับของ "นิว ศิวัจน์" ต่อจาก ซีรีส์ “We Are คือเรารักกัน” ที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมมาแล้ว ซึ่งผลงานการกำกับครั้งนี้ยากยิ่งกวาด้วยว่าเป็นการนำนิยาย 3 เล่ม วิศวกรรมประสาท, วิศวกรรณโยธา และ วิศวะกับไฟฟ้า มาหลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกันภายใต้ชื่อ "สายรหัสเทวดา" ที่มีจุดเริ่มต้นความน่าสนใจจากการที่นักศึกษาคณะวิศวะฯ ทุกคนที่จับสายรหัสได้สายเทวดา ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่หน้าตาดี โดดเด่นที่สุดในคณะ และเหล่าหนุ่มหล่อที่มาอยู่ในสายรหัสนี้ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ได้ติดตามกัน นอกจากเรื่องราวของความรักที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวืทยาลัยของหลาย ๆ คู่ ก็ยังมีเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อน ซึ่งมีเสน่ห์ชวนให้ซีรีส์น่าติดตามมาก ๆ เช่นกัน ซึ่งฉากที่ชอบที่สุด ก็เห็นจะเป็นฉากที่เพื่อน ๆ มาอยู่ร่วมตัวกัน เพื่อนสนิทของ "อาร์ม" ซึ่งก็คือ "ปีโป้" (เจเจ ชยกร" กับ "แซนด์" (ปูน มิตรภักดี" เพื่อนสนิทของ "อาร์ค" ซึ่งก็คือ "วอร์ม" (กวิน แคสกี้), "คอปป์" (เดรก สัตบุตร) และ "ปอนด์" (มาร์ค ณฐริศร์) ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในสายรหัสเทวดา แต่ก็มีเรื่องราวฮา ๆ ให้ได้ติดตามกันทุกฉาก ทุกตอนกันเลยทีเดียว ด้วยความยาว 24 EP. ที่จะได้เห็นทุก ๆ นักแสดงในทุก ๆ ตอน ให้แฟน ๆ ได้มีความสุข และสนุกไปด้วยกัน ติดตามชมไปพพร้อม ๆ กันค่ะทุกคน... "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" เริ่มวันแรก 27 ตุลาคม 2024 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทาง GMM25 และรับชมพร้อมกันทาง Youtube : GMMTV OFFICIAL ขอบคุณภาพประกอบจาก GMMTV / gmmtv / kasibook_ ภาพปก 1 2 ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7 ภาพที่8 ภาพที่9-10 ภาพที่11 ภาพที่12 ภาพที่13-16 ภาพที่17-20 ภาพที่21 ภาพที่22 ภาพที่23 ภาพที่24 ภาพที่25-26 ภาพที่27-29 ภาพที่30 ภาพที่31-33 ภาพที่34 ภาพที่35 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ฉันท์ชมา • 31 ต.ค. 67
ดูเพิ่มเติม